นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงมาตรการควบคุมเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ที่ระบาดมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน โดยระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยข้อมูลทุกอย่าง ดังนั้น ขอให้ประชาชนรับข่าวสารจากกระทรวง ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง
สำหรับมาตรการการคัดกรองผู้ป่วย กระทรวงสาธารณสุขและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการอย่างเข้มงวดมากว่า 2 อาทิตย์ ขอให้มั่นใจว่าทางการไม่เคยเพิกเฉย โดยปฏิบัติตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก และที่ผ่านมา มีประสบการณ์ในการเผชิญหน้ากับโรคระบาด ทั้งโรคไข้หวัดนก โรคเมอร์ส โรคซาร์ส ซึ่งทางการไทยจัดการได้เป็นอย่างดีเยี่ยมจนนานาชาติให้การยอมรับ
เมื่อถามว่าหลังจากทางการจีนสั่งปิดเมืองอู่ฮั่น และบางเมืองไปแล้ว ทางการไทยจะผ่อนคลายมาตรการหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทางการไทยไม่ประมาทแน่นอน และยินดีที่ทางการจีนตัดสินใจเช่นนั้น เพราะถือเป็นการลดความเสี่ยงจากการระบาดของโรค สำหรับประเทศไทย เราไม่ชะล่าใจ ล่าสุด สั่งการให้ติดตั้งเครื่องแสกนอุณหภูมิผู้โดยสารทั่วสนามบิน ในสนามบินที่ต้องรองรับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง
สำหรับ GATEขาเข้าออกจากเมืองอู่ฮั่น ขณะนี้ ไม่มีผู้โดยสาร จึงย้ายอุปกรณ์แสกนไปติดตั้งที่ GATEอื่นๆ แทน เรามั่นใจว่าสามารถแสกนผู้โดยสารได้ครบทุกคน และถ้าพบผู้โดยสารมีไข้ หากประเมินดูแล้ว มีความเสี่ยง จะส่งเข้าโรงพยาบาลทันที เช่นเดียวกับผู้โดยสารขาออก หากมีไข้ และมีโอกาสติดเชื้อ ปล่อยขึ้นเครื่องบินไม่ได้ ต้องถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล นอกจากนั้น ที่ผ่านมาได้แจกเอกสาร เป็นการ์ดขนาดเล็กแนะนำข้อปฏิบัติเพื่อป้องกันไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ แก่ผู้โดยสารซึ่งจะเดินทางมายังประเทศไทย ในนั้นอธิบายไว้ชัดเจน ว่าหากมีอาการไข้ ท่านต้องติดต่อที่ไหน ได้รับความร่วมมือจากผู้โดยสารเป็นอย่างดี
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยมีระบบคัดกรองที่เข้มข้นมาก การเจอผู้ติดเชื้อ ย่อมดีกว่าการที่ตรวจไม่เจอ เนื่องจากระบบคัดกรองหละหลวม ถ้าเราไม่มีรายงานการติดเชื้อ แต่ในความเป็นจริง กลับมีคนติดเชื้อไปแล้วหลายคน จุดนั้นคือความล้มเหลว กระทรวงสาธารณสุขไทยถือคติว่า ต้องตรวจอย่างละเอียด ตรวจให้เจอ ตรวจไม่ปล่อย เพราะยิ่งเจอเร็ว ก็ยิ่งรักษาได้เร็ว โอกาสหายจากโรคยิ่งสูง
ในส่วนของประชาชน ขอให้ตระหนักว่าเรากำลังเผชิญกับโรคไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเป็นโรคที่ป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขภาพ พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารปรุงสุก ใส่หน้ากากอนามัยเวลาอยู่ในแหล่งชุมชน ขอให้ประชาชนอย่าพาตัวเองไปอยู่ในภาวะเสี่ยง สำหรับภาครัฐจะรายงานข้อมูลให้ทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนรู้เท่าทันโรค และภาครัฐพร้อมปรับระดับมาตรการการควบคุมโรค เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในอนาคต