วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 นายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงกรณีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจการบริหารราชการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมรัฐมนตรีอีก 5 คน ว่าเป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตยที่พรรคร่วมฝ่ายค้านต้องตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลว่ามีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์กับประชาชนและเป็นไปด้วยความสุจริต เอื้อประโยชน์พวกพ้องหรือไม่
ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ออกมาร้องผ่านสื่อว่า ฝ่ายค้านตั้งใจเล่นงานรัฐบาล พร้อมอ้างว่าเพิ่งเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินได้เพียงไม่กี่เดือน ไม่ควรเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ อาการแบบนี้เรียกว่าอาการ “ปากกล้าขาสั่น” พยายามใช้การโวยวายสร้างกระแสโทษคนอื่น เช่นเดียวกับความล้มเหลวซ้ำซากที่ผ่านมาของรัฐบาล ที่ พล.อ.ประยุทธ์ มักกล่าวโทษประชาชนว่าไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล จึงทำให้ตนเองทำงานไม่เข้าเป้า
นายการุณ กล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ เก่งแต่เรื่องการบังคับใช้กฎหมายพิเศษเล่นงานฝ่ายตรงข้าม แต่ตัวเองไม่เคารพหลักการประชาธิปไตยและไม่มีวิสัยทัศน์ ยึดอำนาจมาก็อ้างเรื่องปฏิรูปประเทศ และใช้เงินไปเป็นหมื่นๆล้านเพื่อปฏิรูป แต่สุดท้ายไม่ได้อะไรกลับมาเลยนอกจากรัฐบาล “บ่มีไก๊” ไร้ผลงาน ผลาญภาษีไปวันๆ โดยมีหัวหน้ารัฐบาลที่บริหารราชการแบบ ข้ามาคนเดียว เก่งคนเดียว ส่งผลให้จนกันทั้งแผ่นดิน ยกเว้นแต่กลุ่มธุรกิจพวกพ้องที่ร่ำรวยเท่านั้น
“การบริหารราชการแผ่นดินของ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ประเทศไทยถึงทางตัน คนไทยไร้ทางออก บริหารห่วยแตก แต่ดันกลัวการตรวจสอบ จนต้องเรียกลูกสมุนออกมาปกป้อง พร้อมขู่ฝ่ายค้านห้ามอภิปรายย้อนไปถึงยุครัฐบาลคสช. ผมอยากบอก พล.อ.ประยุทธ์ ว่าอย่าร้อนตัว ถ้าเป็นทองแท้ย่อมไม่แพ้ไฟ ถ้ามั่นใจว่าการกระทำในอดีตของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นสิ่งที่ดีงามและถูกต้อง ก็ยิ่งต้องให้ฝ่ายค้านอภิปราย เพราะตัวเองจะได้ออกมาชี้แจงแก้ไขข้อกล่าวหา ยกเว้นอย่างเดียวคือ พล.อ.ประยุทธ์ สำนึกดีว่าตัวเองไม่ใช่ทองแท้แต่เป็นแค่เศษตะกั่วเท่านั้น” นายการุณกล่าว