นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ตรวจสอบผักและ ผลไม้นำเข้าและเยี่ยมชมโครงการผักรวมใจ ร่วมกับเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าได้มีการบูรณาการร่วมกัน ในการกำกับดูแลผักและผลไม้ที่จัดจำหน่ายในประเทศ และการเฝ้าระวังสารพิษตกค้างตลอดห่วงโซ่ ครอบคุมตั้งแต่ การปลูก การคัดบรรจุ การจำหน่าย การบริโภค ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเป็นผู้รับผิดชอบหลักในเรื่องการปลูก ที่ผ่านมาพบว่า เกษตรกรส่วนใหญ่สามารถปฏิบัติตามระบบจัดการคุณภาพพืช (Good Agriculture Practices: GAP) ซึ่งจะมีเกณฑ์ที่ควบคุมดูแลการใช้สารเคมีทางการเกษตรอย่างเข้มงวด แต่อาจจะมีเกษตรกรบางรายที่ใช้สารเคมีอย่างไม่ถูกต้องอยู่บ้าง โดยกรมวิชาการเกษตรได้แจ้งผลการตรวจพบสารเคมีทางการเกษตรที่เกินมาตรฐาน เพื่อดำเนินการปรับปรุงและเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา มายังกรมวิชาการเกษตร รวมทั้งบูรณาการ การพัฒนาเมล็ดพันธุ์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาด ยกตัวอย่างในวันนี้ที่ได้ลงพื้นที่ก็ได้ทราบถึงปัญหาของสินค้าที่ต้องนำเข้าจากเพื่อนบ้าน อาทิ มันหวานญี่ปุ่น อโวคาโด้ หากประเทศไทยสามารถผลิตสินค้าเกษตรเหล่านี้ได้เอง ก็จะสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ลดการนำเข้าจากต่างประเทศ
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตามนโยบายของกระทรวงฯ สนับสนุนให้มีช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ ซึ่งจากการหารือในวันนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้บริหารตลาดไท พร้อมเตรียมและจัดสรรพื้นที่รองรับสินค้าเกษตรอินทรีย์ ซึ่งจะเป็นฐานการกระจายสินค้าที่ใหญ่และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรโดยตรง นอกจากนี้ประชาชนผู้บริโภคก็จะได้รับสินค้าที่ดี มีคุณภาพในราคายุติธรรม ในส่วนของการตรวจหาสารเคมีตกค้างในผลไม้นำเข้า เมื่อทราบผล จะมีการรายงานผลตรวจให้ทราบต่อไป