กระทรวงสาธารณสุข เผย ทั่วโลกมีรายงานผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ใน 27 ประเทศ บางประเทศมีผู้ป่วยยืนยันเพิ่ม ขณะที่ไทยยังมีผู้ป่วยยืนยัน 25 รายเท่าเดิม ลดลงจากอันดับ 2 มาอยู่ในอันดับ 4 ของโลก ผู้ป่วยทุกรายแนวโน้มอาการดีขึ้น สำหรับกลุ่มคนไทยที่กลับจากอู่ฮั่น พบผู้มีอาการเข้าเกณฑ์ต้องเฝ้าระวังโรคเพิ่ม 1 ราย และมีผู้อยู่ร่วมห้องซึ่งเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดอีก 1 ราย ได้นำส่งโรงพยาบาลและเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ส่วนผู้ป่วยเฝ้าระวัง 4 คนเดิมอาการดีขึ้น การดูแลด้านสุขภาพจิตพบทุกรายมีกำลังใจดีและให้ความร่วมมือปฏิบัติตามข้อกำหนด
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ว่า สถานการณ์ในระดับโลกยังมีรายงานพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยขณะนี้มีรายงานพบผู้ป่วยยืนยันใน 27 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ผู้ติดเชื้อทั้งหมด 28,273 ราย และบางประเทศมีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเพิ่มขึ้น ขณะที่ไทยยังมีผู้ป่วยยืนยัน 25 รายเท่าเดิม ทำให้อันดับประเทศที่พบผู้ป่วยลดลงจากอันดับ 2 มาอยู่ในอันดับที่ 4 ของโลก และไม่มีผู้เสียชีวิต โดยผู้ป่วยของไทยที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทั้ง 16 ราย มีโน้มอาการดีขึ้น รายที่อาการรุนแรงสุดยังอยู่ในห้องแยกโรคและมีทีมแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนการเฝ้าระวังโรคในกลุ่มคนไทยที่กลับจากเมืองอู่ฮั่นที่ฐานทัพเรือสัตหีบ วันนี้ได้รับรายงานมีผู้ที่มีอาการคล้ายเป็นหวัดเล็กน้อย 1 ราย และมีผู้อยู่ร่วมห้องซึ่งถือเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดอีก 1 ราย ได้ส่งทั้ง 2 รายไปเฝ้าระวังที่โรงพยาบาล และส่งตรวจเชื้อทางห้องปฏิบัติการ ส่วนผู้ป่วยที่เฝ้าระวังเดิม 4 ราย วันนี้ไม่มีไข้ อาการทั่วไปดี รอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการอีกครั้ง สำหรับกรณีลูกเรือของสายการบินนั้น เป็นการดำเนินการตามมาตรฐานการเฝ้าระวังโรคของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ การที่ประเทศไทยมีการเตรียมการเฝ้าระวังอย่างรวดเร็วจนพบผู้ป่วยรายแรกที่ติดเชื้อนอกประเทศจีน แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะของระบบเฝ้าระวังโรคของไทยที่มีความเข้มแข็งและได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนและประชาชน
ด้านนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงการดูแลทางด้านสุขภาพจิต ว่า จากการประเมินสุขภาพจิตโดยทีม MCATT เบื้องต้น ทุกคนมีกำลังใจดี พร้อมให้ความร่วมมือปฏิบัติตามข้อกำหนดในการควบคุมป้องกันโรค ไม่พบผู้มีความเครียดผิดปกติ ส่วน 3 รายที่มีปัญหาโรคซึมเศร้าเดิม ได้รับยาอย่างต่อเนื่อง อาการปกติดี ได้วางแผนเฝ้าระวังสังเกตอาการต่อเนื่องในช่วง 2 สัปดาห์แรก หากพบคนที่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพจิต จะติดตามอาการต่อเนื่องไปจนครบ 6 เดือน
สำหรับกลุ่มประชาชนทั่วไป จะมีการสำรวจวัดอุณหภูมิใจและความเครียดเพื่อให้การช่วยเหลือและตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพจิตของประชาชนอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ขอความร่วมมือทุกคนให้ “ตระหนัก แต่ไม่ตระหนก” โดยปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ลดการเสพข่าวที่มาจากแหล่งข่าวที่ไม่น่าเชื่อถือ ไม่ส่งต่อข้อความที่ดูเกินจริงและไม่ได้รับการยืนยัน