สำนักข่าวซินหวา สื่อทางการจีน รายงาน (7 ก.พ.) ท่ามกลางสมรภูมิการต่อสู้กับไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่อันดุเดือด คณะนักวิจัยจีนเร่งทำงานแข่งกับเวลาทุกวินาทีเพื่อเฟ้นหาวิธีรักษาผู้ติดเชื้ออย่างแข็งขัน มีการคัดกรอง “ยา” ที่มีศักยภาพเอาชนะไวรัสร้าย โดยยาบางตัวถูกทดลองทางคลินิก และบางตัวถูกบรรจุในแนวทางการรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
– เรมเดซิเวียร์ (Remdesivir)
เรมเดซิเวียร์เป็นยาที่พัฒนาโดยกิลเลียด ไซเอนเซส (Gilead Sciences) บริษัทเภสัชกรรมสัญชาติอเมริกัน มีประสิทธิภาพระดับดีในการต้านไวรัสโคโรนาที่ก่อโรคซาร์ส (SARS) และโรคเมอร์ส (MERS) ในการทดลองกับสัตว์และเซลล์ก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกัน เรมเดซิเวียร์ยังแสดงประสิทธิภาพ “ค่อนข้างดี” กับการต้านไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ในระดับเซลล์ โดยจีนจะทดลองใช้ยาเรมเดซิเวียร์รักษาผู้ป่วยแบบสุ่ม แบบอำพรางสองทาง และแบบยาหลอก จำนวน 761 ราย
– คลอโรควิน (Chloroquine)
คลอโรควินเป็นยาที่ถูกใช้มานานกว่า 70 ปี มักใช้รักษาโรคมาลาเรีย และโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง และเป็นที่ทราบกันว่าสามารถสกัดกั้นการติดเชื้อไวรัสด้วยการเปลี่ยนความเป็นกรด-ด่างในเซลล์และแทรกแซงตัวรับของไวรัสก่อโรคซาร์ส
ผลการศึกษาของคณะนักวิจัยชาวจีนเมื่อเร็วๆ นี้ พบว่า คลอโรวินสามารถยับยั้งการติดไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ในหลอดทดลองอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงแสดงการควบคุมภูมิคุ้มกัน ที่อาจเพิ่มปฏิกิริยาต้านไวรัสในสิ่งมีชีวิต โดยเฉพาะส่วนปอด
การแถลงข่าวของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) เมื่อวันอังคาร (4 ก.พ.) ระบุว่ามีการคัดเลือกคลอโรควินเป็นหนึ่งในรายการยาเพื่อการทดลองกับสัตว์และการทดลองทางคลินิกเพิ่มเติมด้วย
– ยาต้านไวรัสเอชไอวี (HIV)
ยาต้านไวรัสเอชไอวีกลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของการใช้ต้านไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ หลังจากคณะนักวิจัยชาวจีนคัดกรองยาในตลาด รวมถึงยาในฐานข้อมูลสารประกอบฤทธิ์แรงสูงและสารประกอบจากพืชสมุนไพร
ผลการศึกษาที่เผยแพร่เมื่อปี 2004 ระบุว่าการผสมยาต้านไวรัสเอชไอวี 2 รายการ ได้แก่ โลพินาเวียร์ (Lopinavir) และริโตนาเวียร์ (Ritonavir) “มีประโยชน์ทางการรักษาอย่างเป็นรูปธรรม” (SCB) เมื่อใช้รักษาผู้ป่วยโรคซาร์ส
ผลการศึกษาข้างต้นแจกแจงว่ายาต้านไวรัสเอชไอวีสูตรผสมดังกล่าวมุ่งเป้าไปยังโปรติเอส (protease) หรือเอนไซม์ที่ไวรัสเอชไอวีและไวรัสโคโรนาใช้สลายโปรตีน ขณะพวกมันจำลองตัวเองใหม่
รายงานของคณะนักวิจัยชาวจีนในวารสารแลนเซต (Lancet) ระบุว่าโรงพยาบาลอู่ฮั่น จินอิ๋นถาน (Wuhan Jinyintan Hospital) ซึ่งรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 41 รายแรก ได้ทดลองใช้ยาต้านไวรัสเอชไอวีสูตรผสมแบบสุ่มและแบบยาหลอกแล้ว
ส่วนแนวทางการรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ฉบับที่ 3 ของคณะกรรมการฯ ชี้ว่าการรับประทานยาโลพินาเวียร์/ริโตนาเวียร์ และสูดดมยาพ่นแบบฝอยละอองอัลฟา อินเทอร์ฟีรอน (alpha-interferon) 2 รอบต่อวัน เป็นประโยชน์กับผู้ป่วย
– อาร์บิดอลและดารูนาเวียร์ (Arbidol & Darunavir)
อาร์บิดอลเป็นยาต้านไวรัสที่ใช้รักษาโรคไข้หวัดใหญ่ในจีน สามารถผสมกับดารูนาเวียร์ ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสเอชไอวี เพื่อรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่
คณะนักวิจัยนำโดยหลี่หลานเจวียน สมาชิกสถาบันบัณฑิตวิศวกรรมศาสตร์แห่งชาติจีน และผู้เชี่ยวชาญของคณะกรรมการฯ เปิดเผยการทดสอบอาร์บิดอลและพบว่าสามารถยับยั้งไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ในหลอดทดลองอย่างมีประสิทธิภาพ
คำแนะนำการใช้ยาสูตรผสมดังกล่าวของหลี่ได้รับการบรรจุในแนวทางการรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ฉบับที่ 6 ของคณะกรรมการฯ ด้วย