เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการพิจารณาญัตติเรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดการรัฐประหารขึ้นอีกในอนาคต ซึ่งยังค้างคาอยู่ ว่า เนื่องจากญัตตินี้มีผู้ขออภิปรายเป็นจำนวนมาก และสามารถลงมติได้ในวันที่ 6 ก.พ.ผ่านมา เนื่องจากวิปรัฐบาลประเมินเสียงสนับสนุนอาจจะไม่เพียงพอ จึงมีการปิดประชุม เพื่อเลื่อนมาพิจารณาต่อในวันที่ 12 ก.พ นี้ ส่วนตัวยังยืนยันในความเห็นเดิม คือจะโหวตตามมติวิปรัฐบาลคือไม่ให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เพราะเห็นว่าประเทศไทยไม่สามารถป้องกันการปฏิวัติรัฐประหารได้ แม้หลายฝ่ายจะออกมาแสดงความเห็นว่า การรัฐประหารจะเกิดขึ้นได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขทางการเมืองหลายปัจจัย ถ้าบ้านเมืองเดินเข้าสู่ทางตัน ไม่สามารถแก้ปัญหาตามแนวทางตามระบอบประชาธิปไตยได้ การรัฐประหารอาจจะเป็นทางออกของบ้านเมืองได้นั้น ตนยังเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น เพราะได้พิสูจน์แล้วว่าการรัฐประหารเกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมา ไม่ใช่การแก้ปัญหาของบ้านเมืองที่ยั่งยืน
“การรัฐประหารที่ผ่านมาในอดีต ไม่ใช่แก้ปัญหาทางตันของบ้านเมืองเท่านั้น แต่คณะรัฐประหารจะฉวยโอกาสสืบทอดอำนาจของตัวเองมาโดยตลอด เช่น 1.ยุคสมัยจอมพล ป. พิบูลย์สงคราม ปฏิวัติตัวเองแล้วก็สืบทอดอำนาจอย่างยาวนานที่สุด 2.ยุคจอมพลถนอม กิตติขจรร ก็ปฏิวัติตัวเอง เพื่อสืบทอดอำนาจต่อเนื่อง จนมีขบวนการนักศึกษา 14ตุลาคม 2516 เดินขบวนขับไล่ ออกนอกประเทศ 3.การรัฐประหารของ พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ ก็สืบทอดอำนาจให้รัฐบาลนายธานินทร์ กรัยวิเชียร และรัฐบาลพล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ 4.การรัฐประหารของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือรสช.โดย พล.อ. สุนทร คงสมพงษ์ ก็มีการสืบทอดอำนาจให้กับพล.อ.สุจินดา คราประยูร และ 5.การรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช. โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็สืบทอดอำนาจให้กับตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีในปัจจุบัน จะมีเพียงแต่การรัฐประหารของคณะมนตรีความมั่นคงอห่งชาติ หรือ คมช.เท่านั้น ที่ไม่มีการสืบทอดอำนาจจากคณะรัฐประหาร เพราะเมื่อเข้าควบคุมอำนาจบริหารประเทศใช้เวลา1ปี ก็เปิดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป และคมช.ไม่ได้ตั้งพรรคการเมืองและลงเลือกตั้งเพื่อสืบทอดอำนาจแต่อย่างใด”นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวด้วยว่า ฉะนั้นการรัฐประหารจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ในอนาคต ย่อมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างเช่น สถานการณ์บ้านเมือง,พฤติกรรมของนักการเมือง,ภาวะเศรษฐกิจของบ้านเมืองและการทุจริตคอร์รัปชั่นนเกิดขึ้นในบ้านเมืองหรือไม่ ดังนั้นแนวทางป้องกันแก้ไขการรับประรัฐประหารในอนาคตที่ดีสุดขึ้นอยู่กับจิตสำนึกประชาชนคนไทยผู้เป็นเจ้าของประเทศที่แท้จริงเป็นสำคัญ
ขอบคุณข่าว : มติชน