นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พรรคเพื่อไทย เผยแพร่บทความผ่านเฟซบุ๊ก หมอชลน่านFcไม่มีดราม่า ระบุว่า
#RIPสภากาขาว
27ก.พ.#อัปยศสภาไทยจารึกไว้ในประวัติศาสตร์
เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์สภาไทยที่ใช้เสียงข้างมากปิดหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งๆที่ยังเหลือผู้อภิปราย 5 คน ที่จะอภิปราย นายวิษณุ พล.อ.อนุพงษ์ และ พล.อ.ประวิตร โดยอ้างเวลาตามที่ตกลงของฝ่ายค้านหมดลงแล้ว ตั้งแต่เวลา 16.30 น. ถ้าฝ่าย รบ.รมต.ชี้แจงครบแล้วก็จะปิดอภิปราย ไม่เกินหนึ่งทุ่ม
ท่านประธานชวน หลีกภัย ให้โอกาสไปเจรจาเรื่องเวลากันใหม่ 2 ครั้งฝ่ายค้านสุดท้ายยอมปรับลดเวลา ขอเพิ่ม เพียง 1 ชั่วโมง ขอปิดอภิปราย 2 ทุ่ม แต่ รบ.อ้าง”ผู้ใหญ่” ไม่ยอม ยืนยันปิด 1 ทุ่ม
การเจรจาเดิม ปิด 1 ทุ่มไม่รวม อภิปรายสรุป 2 ชั่วโมง บนพื้นฐานการพูดคุยกันว่ายืดหยุ่นได้ตามเหตุผลความจำเป็น
ซึ่งปกติ ก็พูดคุยตกลงกันได้มาตลอด
ผมเชื่อโดยสนิทใจว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นญัตติที่ทุกฝ่ายให้ความสำคัญ เป็นสิทธิของเสียงข้างน้อยที่ต้องได้รับการเคารพ ไม่ละเมิด แต่ถูกฝ่ายรัฐบาลยุคนี้ที่ไม่คำนึงหลักปฏิบัติที่จะธำรงรักษาไว้ซึ่งระบบรัฐสภา ยอมที่จะทำตามที่”ผู้ใหญ่” สั่งการ เหมือนกับญัตติตั้งกรรมาธิการไปพิจารณาศึกษาเรื่อง ม.44 และต่อต่อต้านรัฐประหาร หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ยอมให้ตั้ง ซึ่งสงสัยว่าคงโดน”สั่ง” เช่นกัน
ประเด็นมีการสร้างข่าวว่าเพื่อไทย จับมือกับพรรครัฐบาลกีดกันพรรคอนาคตใหม่ไม่ให้ได้อภิปราย”ประวิตร”นั้น ผมเองก็เสียใจมากกับท่าน ส.ส ที่ยังไม่ได้อภิปราย ทั้ง ส.ส อนาคตใหม่และเพื่อไทย
เท่าที่ทำหน้าที่อยู่ในหน้างาน ยอมรับว่าเราไม่สามารถบริหารเวลาได้อย่างเที่ยงตรง แต่ก็เป็นเรื่องยากมากหลายเรื่องควบคุมไม่ได้ การอภิปรายติดพัน การประท้วง การประท้วงตอบโต้ อ้างเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส ที่กระทำได้
มีความพยายามที่จะให้เวลาอยู่ในเกณฑ์การปิดอภิปรายประมาณ 1 ทุ่ม โดยยอมที่จะอภิปรายให้เลยเวลา 0.30 .นไปถึง ตี 1 – ตี 2 เพื่อชดเชยเวลา ซึ่งได้เวลามาถึง 3 ชม. ทำให้ สามารถปิดการอภิปรายประมาณ 2 ทุ่ม ได้ แต่ รบ.ไม่ยอม
เจตนาปกป้องไม่ให้อภิปราย “ประวิตร” คือสาเหตุหลัก กลับ IO ผลักให้ฝ่ายค้านแตกแยกกัน
ตั้งสติครับ อย่าให้เขาใช้โอกาสนี้ทำลายฝ่ายประชาธิปไตย ช่วยกันเปิดโปงการใช้อำนาจทำลายระบบรัฐสภาฯ ทำลายอำนาจของประชาชน
*อย่าลืมครับ ผู้มีอำนาจฝ่ายอนุรักษ์นิยม ต้องการทำลายล้าง”อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย”
ถ้าไม่รักษา ก็ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนครับ
ด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานและโฆษกคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านและการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวถึงกรณี ฝ่ายค้านวอล์กเอาต์ และไม่ร่วมลงมติ เนื่องจากญัตติยังไม่สมบูรณ์ รัฐมนตรีอีก 2 คนยังไม่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า การวอล์กเอาต์และการไม่ร่วมลงมติ เป็นความเห็นชอบร่วมกันของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ประชาชนที่ติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจเห็นกันทั้งประเทศว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่สามารถตอบคำถามได้เลย เข้าลักษณะ ถามช้างตอบม้า ถามวัวตอบควาย ความอยู่รอดของชีวิตพล.อ.ประยุทธ์ ฝากไว้กับโพยที่ข้าราชการประจำเขียนฝากมาให้ การตอบคำถามของรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย ก็เป็นไปในลักษณะไม่ต่างกัน ความกลัวทำให้เสื่อม เมื่อเข้าตาจน จึงชิงรวบรัดตัดสิทธิ์การอภิปรายของฝ่ายค้าน ทำตัวเป็นเผด็จการรัฐสภา เป็นการสร้างความอัปยศให้กับรัฐสภาไทย เวลานี้ ไม่ใช่เวลาที่ส.ส.พรรคการเมืองฝ่ายค้าน พรรคความหวังฝ่ายประชาธิปไตย ในสภาผู้แทนราษฎร ต้องมานั่งคร่ำครวญเสียใจหรือโทษกันไปมา แต่เป็นเวลาของการลุกขึ้นสู้เพื่อหยุดยั้งระบอบประยุทธ์ ต่อต้านเผด็จการรัฐสภา ขับไล่รัฐบาลสืบทอดอำนาจ ร่วมกับ นิสิต นักศึกษา ประชาชน คนรุ่นใหม่ ที่พร้อมขับเคลื่อน เป็นพลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงประเทศให้ดีขึ้น
“ระบอบประยุทธ์ ตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่หลวง คิดว่า ปิดปากฝ่ายค้านในสภาได้ปัญหาก็จบ ซึ่งจากนี้ไปจะได้เห็นเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลระบอบประยุทธ์ ผุดขึ้นพร้อมกันทั่วทั้งประเทศ จะไม่มีใครหรือสิ่งใดในระบอบประยุทธ์ หยุดยั้งได้” นายอนุสรณ์ กล่าว