ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจราชการ พร้อมมอบนโยบายการจัดการศึกษา ณ สำนักงาน กศน. จังหวัดกำแพงเพชร อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2563
ในการตรวจราชการในครั้งนี้ดร.กนกวรรณได้สั่งการให้สำนักงาน กศน.จังหวัดกำแพงเพชร ประสานเชิญเจ้าหน้าที่จากสาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชร มาให้ความรู้ ตั้งจุดคัดกรอง และนำทีมแจกหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือแก่ทุกคน ก่อนเข้าร่วมการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ โดยได้เน้นย้ำให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ครู กศน. และครูเอกชน ทุกคน ให้ความรู้แก่นักเรียน นักศึกษารวมทั้งประชาชนและคนใกล้ตัวในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันไวรัสโคโรนา COVID-19 โดยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือใกล้ชิดกับผู้คนที่มีอาการคล้ายไข้หวัด ปิดปาก ปิดจมูก เวลาไอหรือจาม รวมไปถึงหมั่นล้างมือด้วยน้ำสะอาด สบู่ หรือ เจลแอลกอฮอล์ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น หากจะสัมผัส ต้องล้างมือให้สะอาดขอให้ทำเป็นประจำให้เป็นสุขนิสัย และช่วยกันรับผิดชอบสังคมด้วยการสวมหน้ากากอนามัย ทั้งขณะที่อยู่ในบ้าน หรือไปทำงาน จะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อโรคได้ถึงร้อยละ 50 เพื่อความปลอดภัยของทุกคน
“ ตนมีความห่วงใยในสุขภาพของบุคลากร นักเรียน นักศึกษาและประชาชนของเราเป็นอย่างมาก เพราะจากการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วบวกกับสภาพอากาศที่เราต้องรับมือกับฝุ่น PM2.5 อยู่แล้ว ยิ่งทำให้มีผลกระทบกับสุขภาพ โดยเฉพาะลูกๆเยาวชน และนักศึกษาทุกช่วงวัยของเราที่ช่วงนี้เป็นช่วงที่กำลังสอบปลายภาค และเตรียมตัวสอบเข้าเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น จึงขอให้ทุกท่านหมั่นดูแลตนเองและคนใกล้ชิด ปฎิบัติตนตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด ซึ่งตอนนี้สำนักงาน กศน.ได้แจ้งหน่วยงาน สถานศึกษาในสังกัดทั่วประเทศ ดำเนินการอบรมสอนการทำแอลกอฮอล์เจลล้างมือและทำหน้ากากอนามัยแจกจ่ายให้แก่ประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมาก นับเป็นการร่วมมือร่วมใจที่ขอชื่นชมและขอขอบคุณในความเสียสละที่ชาว กศน.มีให้แก่คนไทยด้วยกันในยามลำบาก ซึ่งเชื่อแน่ว่าแล้วเราจะผ่านเหตุการณ์นี้ไปด้วยกัน” ดร.กนกวรรณ กล่าวด้วยความห่วงใย
นอกจากนี้สำหรับการลงพื้นที่ตรวจราชการเพื่อติดตามนโยบายในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชรนั้น สำนักงาน กศน. จังหวัดกำแพงเพชร ได้นำเสนอความเป็นเลิศของการดำเนินงานในด้าน Good Partnerships และ Good Innovation ซึ่งถือว่าเป็นสุดยอด กศน.กำแพงเพชร ในการเป็นต้นแบบผนึกพลังภาคีเครือข่ายหนุนเสริม สร้าง Brand กศน.อย่างเข้มแข็งโดยการพัฒนานวัตกรรมผ่านกระบวนแบบการมีส่วนร่วม สู่ผลิตภัณฑ์ “OOCC”ตามนโยบาย Good Innovation “กศน.WOW WOW ก้าวสู่ยุคดิจิทัล” ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Brand กศน. “ผ้าทอมือกล้วยไข่”จากผ้าทอฝ้ายสู่ผ้าทอด้วยเส้นใยกล้วยไข่ ที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของเมืองกำแพงเพชร ก่อให้เกิดรายได้ของชุมชนที่ยั่งยืน นวัตกรรมใหม่ชิ้นนี้ เกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชนบ้านหนองแสง ตำบลปางมะค่า อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัตกำแพงเพชร และความร่วมมือระหว่าง กศน.อำเภอขาณวรลักษบุรี สำนักงาน กศน.จังหวัดกำแพงเพชร กับมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ที่วิเคราะห์ชุมชน และนำงานวิจัยการพัฒนาเส้นด้ายจากเส้นใยต้นกล้วยไข่ผสมฝ้ายสู่ผลิตภัณฑ์สิ่งทอ บริการวิชาการแก่ชุมชนบ้านหนองแสงขึ้น จนเกิดเป็น นวัตกรรมจาก “ผ้าทอมือกล้วยไข่” ที่มีความน่าสนใจ ซึ่ง ดร.กนกวรรณ ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า “ สำหรับนวัตกรรม “ผ้าทอมือกล้วยไข่” นี้ หากพร้อมรับการต่อยอด ตนก็ยินดีสนับสนุนเต็มที่ เพื่อให้คนกำแพงเพชรได้มีผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากภูมิปัญญา แสดงถึงอัตลักษณ์ อย่างมีคุณค่า ได้มาตรฐานทัดเทียมตลาดชั้นนำ และพร้อมผลักดันไปสู่การจดอนุสิทธิบัตรในอนาคต และสำหรับ กศน. ที่มีปัญหาอุปสรรคในการทำงาน อาทิ เรื่อง อาคาร สถานที่ของสำนักงาน กศน.ตำบลต่าง ๆ ในจังหวัดกำแพงเพชร ชำรุดเสียหายนั้น ตนขอฝากให้ ครูกศน.ตำบลต่าง ๆ สรุปส่งรายละเอียดเสนอไปตามขั้นตอนอย่างเร่งด่วนเพื่อตนจะได้หาทางพิจารณาช่วยเหลือต่อไป และสำหรับการสอบครูผู้ช่วย กศน.ที่กำลังจะมีขึ้นนั้น ขอเน้นย้ำอีกครั้ง ว่าการสอบคัดเลือก ดำเนินการด้วยความยุติธรรม โปร่งใส หากมีผู้ใดเสนอตัวว่าช่วยดำเนินการให้บรรจุเข้ารับราชการครู กศน.ได้ โปรดอย่าหลงเชื่อและให้แจ้งมาที่รัฐมนตรีกนกวรรณได้โดยตรง เพื่อจะได้ดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด”
ด้านการศึกษาเอกชนนั้น ขอชื่นชมผู้บริหารและครูโรงเรียนปัทมดรุณวิทย์ ที่ได้จัดการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบ ส่งผลให้การสอบประเมินคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าระดับประเทศทุกวิชา และเพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจแก่ครูเอกชน ที่ได้มุ่งมั่นผลักดันจนเพิ่มสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลของครูโรงเรียนเอกชนสำเร็จ ขึ้นเป็น 150,000 บาท/คน/ปีแล้วนั้น ก็จะพยายามเร่งดำเนินการผลักดันสวัสดิการนี้ให้สามารถขยายผลครอบคลุมถึงครอบครัวครูเอกชนต่อไป
นอกจากนี้ได้มีนโยบายสำคัญที่ได้เริ่มดำเนินการอยู่ตอนนี้ คือ โครงการพัฒนาผู้บริหารโรงเรียนเอกชนสู่ศตวรรษที่ 21 ซึ่งจะดำเนินการจัดอบรบหลักสูตรนักบริหารเอกชนระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (นบส.สช.) จำนวนรุ่นละ 120 คน เพื่อให้มีความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ เสริมสร้างสมรรถนะในการบริหารจัดการศึกษาเอกชนอย่างมีคุณภาพ เป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ มีคุณธรรม และเป็นแบบอย่างที่ดีในการจัดการศึกษาให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งเสริมสร้างความผูกพัน พัฒนาเครือข่ายความร่วมมือในการบริหารจัดการศึกษาเอกชนการช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันอย่างยั่งยืน และขณะนี้ได้ประกาศรับสมัครแล้ว และทราบว่าได้รับความสนใจจากผู้บริหาร ของโรงเรียนเอกชนเป็นจำนวนมาก ผู้สนใจสามารถสมัครได้ที่ www.opec.go.th ตั้งแต่ 1 -14 มีนาคมนี้
“ดิฉันขอเป็นกำลังใจให้คุณครูทุกท่าน ไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งไหน สังกัดใด ขอยืนยันว่าภายใต้การนำของรัฐมนตรีกนกวรรณ จะพยายามผลักดันทุกอย่างที่เป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ และพร้อมทลายทุกข้อจำกัด เพื่อชาว กศน. สช. และ ลูกเสือทุกคน อย่างเต็มความสามารถ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอย่างแน่นอน” ดร.กนกวรรณ กล่าว
ข่าว: เอื้อมพร สุเมธาวัฒนะ กรรณิกา พันธ์คลอง
ภาพ: เอื้อมพร สุเมธาวัฒนะ พนารัตน์ ศรีตระลา
วีดิโอ : ณัฐวุฒิ วากะดวน