นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ อดีตรองโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. ประชุมเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2563 เรื่องความคืบหน้าการพิจารณาคดีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่จากกรณีถือหุ้นบริษัท วีลัคมีเดีย จำกัด เข้าข่ายผิดพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา151 กรณีผู้สมัครรับเลือกตั้งรู้ตัวว่า ไม่มีสิทธิแล้วยังสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งการดำเนินการในชั้นอนุกรรมการสืบสวนฯเสร็จสิ้นแล้ว และมีเสนอเข้าที่ประชุม กกต. โดยมีการสั่งให้ไปกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน และเรียบเรียงใหม่ ให้เห็นชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตามคาดว่าสัปดาห์หน้าน่าจะมีความคืบหน้าห้ามเข้าสภาก็แล้ว ยุบพรรคก็แล้ว ตัดสิทธ์ทางการเมืองก็แล้ว ดูเหมือนว่า กกต.ยังมีความพยามดำเนินคดีอาญากับธนาธร ทั้งที่หลักฐานการถือหุ้นบริษัทวีลัคชัดเจนว่าโอนไปหมดแล้ว กกต.รู้หรือไม่ว่าการพยามดำเนินคดีต่าง ๆ กับธนาธรไม่ใช่แค่การลงโทษธนาธร แต่คือการทำลายความชอบธรรมของตนเอง ทำลายความชอบธรรมของการเมืองปัจจุบัน มีคดีมากมายที่มีหลักฐานชัดเจนกกต.สามารถนำเนินคดีได้แต่ไม่มีความคืบหน้าหรือทีท่าจะดำเนินคดีกับบุคคลคนนั้นด้วยซ้ำ
ผมอยากถามว่า กกต.ออกมาเห็นโลกภายนอกบ้างหรือไม่ ประชาชนรู้สึกอย่างไรกับสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ ความไม่ชอบธรรมที่เกิดขึ้นเป็นฟางเส้นสุดท้ายให้ความอดทนของประชาชนหมดลงไป ทบทวนตัวเองบ้างหรือไม่ว่านักศึกษาออกมาเคลื่อนไหวในทุกพื้นที่ขณะนี้ ไม่ใช่เพราะธนาธรหรืออดีตพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ แต่ต้นเหตุคือการกดขี่และดูถูกประชาชน ความรู้สึกหมดที่พึ่งขององค์กรนิติบัญญัติในประเทศไทย ซึ่งหากกกต.ตระหนักสักนิด แล้วกอบกู้ความหน้าเชื่อถือและชอบธรรมให้ตนเองในเวลานี้ผมคิดว่ายังทัน อย่างน้อยก็ไม่เป็นเชื้อเพลิงเติมไฟให้ลามทุ่งไปมากกว่านี้
ในวันที่ประชาชนออกมา ในวันที่คนหนุ่มสาวไม่อาจก้มหน้าต่อความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นได้อีกต่อไป อย่ากล่าวหาว่าพวกเขาออกมาเพราะการเมืองฝ่ายไหน อย่ายัดเหยียดให้ใครเป็นผู้ร้ายทั้งที่ฆาตรกรเลือดเย็นคือพวกคุณและหนึ่งในนั่นคือ กกต.