นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีกระทรวงการคลังจะเสนอชุดมาตรการช่วยเหลือผลกระทบโควิด-19 โดยจะมีการแจกเงินคนจนทั่วประเทศ หัวละ 1000-2000 บาทตามข่าว ว่า
- รมว. คลังชี้แจงผ่านเฟสบุ๊คสรุปความว่า ท่านแจก หวังให้คนเอาไปใช้จ่าย หวังให้คนผลิตมากขึ้น หวังให้จ้างงานมากขึ้น ผมมองว่าตรรกะข้อนี้ไม่ถูกต้อง ท่านทราบหรือไม่ว่า การใช้จ่ายของคน แปรผันตรงต่อกระแสรายได้ในระยะยาว ไม่ใช่เงินชั่วคราวในระยะสั้นหรือการแจกเงิน กระแสรายได้ระยะยาว มันคือ งาน สำคัญคือประชาชนต้องมีงาน คนมีงานอยู่แล้วต้องป้องกันไม่ให้ตกงาน คนตกงานต้องรีบสร้างงานให้ คนใช้จ่ายเมื่อมีงาน รู้สึกมั่นคงในรายได้ ที่ท่านหวังแจกเงินเพื่อสร้างงาน ผมเกรงว่ามันจะไม่เกิดขึ้น
- ท่านทราบหรือไม่ว่า ไม่มีผู้ผลิตรายไหน จะเพิ่มการผลิต เพิ่มการจ้างงาน เพื่อรองรับกำลังซื้อชั่วคราวหัวละพันแบบนี้ ความหวังเรื่องการจ้างงานจากเงินแจก มันไม่ตั้งอยู่บนหลักคิดที่ถูกต้อง
- ท่านทราบหรือไม่ว่า หัวใจของผลกระทบจากโควิด-19 มันอยู่ที่สายป่านของธุรกิจภาคท่องเที่ยวขนาดเล็กมันสั้น 2-3 เดือนเท่านั้น ต้องแก้ด้วยการต่อสายป่าน ให้ธุรกิจเหล่านี้ไม่ล้ม ถ้าล้มมันจะลาม มาตรการชุดนี้ในส่วนที่เป็นการต่อสายป่าน ผมเห็นด้วย แต่ส่วนที่แจกไปทั่ว ผมมองว่าเป็นมาตรการที่ชุ่ย
- ท่านทราบหรือไม่ว่า ปีที่แล้วทั้งปี ท่านได้ใช้มาตรการแจกเงินอย่างเข้มข้น ถ้าดีจริงควรเห็นผลสะสมตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีที่แล้ว แต่ผลงานนั้นได้สะท้อนผ่าน GDP ไตรมาสดังกล่าว ซึ่งต่ำสุดในรอบ 21 ไตรมาส ซึ่งโดยปกติแล้วไตรมาส 4 ควรเป็นช่วงที่ดี มีแรงส่งการผลิต การใช้จ่ายปลายปีสูง และการท่องเที่ยวสูง และช่วงนั้นยังไม่มีโควิด-19 ตัวเลขมันฟ้องว่าที่แจกมาทั้งปีมันผิดทาง
- ท่านทราบหรือไม่ว่า ผลกระทบจากโควิด-19 กำลังจะลามไปนอกภาคท่องเที่ยว ซึ่งอันตรายมาก ต้องเอาเงินมาหยุดการลามตรงนี้แบบเฉพาะจุด ต้องหยุดเลือดเฉพาะที่ ไม่ใช่แจกหว่านไปทั่วประเทศอย่างนี้ ทำอย่างนี้เหมือนขาเจ็บแต่รักษาโดยการทายาแก้คันไปทั้งตัว
มาตรการแจกเงินก็แย่อยู่แล้ว ยิ่งฟังคำชี้แจงอีก ยิ่งทำให้เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลจึงออกมาตรการสารพัดแจกแบบนี้ออกมาเรื่อยๆ วันนี้เข้าใจแล้วว่ามันผิดมาตั้งแต่วิธีคิด
ด้าน นายอุตตม สาวนายก รมว.คลัง อธิบายถึงเหตุผลที่ต้องแจกเงินตรงถึงมือประชาชนว่า มีข้อสงสัยกันมาก เรื่องที่กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากภัยไวรัสโควิค-19 ด้วยวิธีการส่งเงินเข้าบัญชีผู้มีสิทธิเพื่อให้นำเงินไปใช้จ่าย ซึ่งจะมีการนำเสนอเข้าครม. เร่งด่วน
ทั้งนี้การกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้บทบาทกระทรวงการคลัง มีอยู่ 2 แนวทาง คือ 1.มาตรการทางภาษี เช่นการยกเว้นหรือการลดภาษี เพื่อให้เกิดเม็ดเงินส่วนต่างจากภาษีที่ลดไป หมุนเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจ กับ 2.การนำเงินอัดฉีดเข้าไปในระบบ ก็คือส่งให้กับประชาชนไปใช้จ่ายโดยตรง
ต้องยอมรับว่าวันนี้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากโควิค-19 รุนแรง และไม่อาจคาดเดาได้ว่าสถานการณ์จะดำเนินถึงเมื่อไหร่ จึงจำเป็นต้องใช้มาตรการระยะสั้น เพื่อพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ตกต่ำไปกว่านี้ และการส่งเงินให้ถึงประชาชนเพื่อเอาไปใช้จ่าย คือ มาตรการที่ได้ผลเร็วที่สุด และเมื่อสถานการณ์ทุเลาลงแล้ว ก็ต้องมีมาตรการอื่นๆเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจต่อไป
สำหรับการส่งเงินถึงมือประชาชนโดยตรงนั้น เป็นเพียง 1 ในชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ต้องการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบในทุกกลุ่มเป้าหมาย และเป็นเพียงมาตรการระยะสั้น ซึ่งจะต้องผ่านการพิจารณาของทุกฝ่ายอีกครั้งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ก่อนที่จะเสนอที่ประชุม คณะรัฐมนตรี พิจารณาต่อไป
สำหรับเป้าหมายของมาตรการนี้เพื่อให้ประชาชนนำไปซื้อสินค้า ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย เมื่อมีการซื้อขายสินค้าบริการต่างๆเกิดขึ้น เม็ดเงินก็จะหมุนไปในหลายๆภาคส่วน และหลายๆรอบ คือเมื่อเกิดการซื้อ ก็มีการผลิต เมื่อมีการผลิตก็จะมีการจ้างงาน มีการซื้อวัตถุดิบ
เราต้องช่วยกันครับ คนไทยทุกคนกำลังเผชิญปัญหาใหญ่ ความร่วมมือร่วมใจกันจะพาเราผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปได้