นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ยังคงน่าเป็นห่วง เพราะโอกาสแพร่กระจายของเชื้อสูงมาก ที่ผ่านมารัฐบาลยังไม่เข้าใจถึงสาเหตุการแพร่กระจายของเชื้อที่แท้จริง รวมไปถึงแนวทางในการแก้ปัญหา การระบาดของเชื้อ รัฐบาลบริหารประเทศในภาวะวิกฤติผิดพลาดส่งผลให้ไม่สามารถระงับยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19ได้
โดยเฉพาะในช่วงแรกของการเดินทางเข้าประเทศไทยของกลุ่มเสี่ยง รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเฝ้าระวังแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ แต่กลับปล่อยให้คนต่างชาติ โดยเฉพาะประเทศที่เป็นกลุ่มเสี่ยงชาวจีนหรือชาวเกาหลี เดินทางเข้าประเทศไทยโดยไม่ผ่านการคัดกรอง ถือว่าเป็นการทำงานที่สะเพร่ามาก ทั้งๆที่รัฐบาลต้องมีมาตรการชัดเจนในการคัดกรองคนที่เดินทางเข้าประเทศไทยทุกช่องทางและควรที่จะต้องกักตัวเพื่อดูอาการเช่นเดียวกับคนไทยแต่รัฐไม่ทำส่งผลให้ประชาชนต้องตกอยู่ในภาวะเสี่ยง ที่มาจากการบริหารงานไม่เป็นของรัฐ
นายนิยม กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ค่าตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 มีราคาสูงมาก ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ประชาชนประสบปัญหาเรื่องค่าครองชีพ ไม่มีเงินไปตรวจหาเชื้อ แม้รัฐจะอ้างว่ารักษาฟรี ประชาชนไม่กังวลเรื่องการรักษาแต่กังวลเรื่องค้าตรวจหาเชื้อไวรัส ดังนั้น คนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเขาก็ไม่ไปตรวจส่งผลให้เชื้อแพร่กระจายไปเร็วมาก กรณีที่เกิดขึ้นกับนายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ฉะเชิงเทรา ที่ติดเชื้อโควิด-19 แต่ไม่ออกอาการก็เดินทางไปสนามมวย ไปพบผู้สูงอายุ อาจจะเกิดการแพร่กระจายในคนจำนวนมากได้
“รัฐต้องเร่งแก้ไขในเรื่องการตรวจหาเชื้อโดยด่วน ดังนั้นรัฐต้องสนับสนุนงบประมาณเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ในการตรวจหาเชื้อโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและเป็นแสดงถึงการเอาใจใส่ประชาชน ดีกว่าให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาพูดออกทีวีโดยหาสาระอะไรไม่ได้เลย”นายนิยมกล่าว