วันนี้ 27 มี.ค.63 นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐและส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ กล่าวถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในไทยเปรียบเทียบจำนวนคนต่อประชากรหนึ่งล้านคน พบว่ามีจำนวนน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ เชื่อว่าเกิดจากความสามารถของทีมคณะแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่ทุ่มเททำงานอย่างเสียสละ และเสี่ยงภัยต่อการติดเชื้อไวรัส เข้าดูแลรักษาผู้ป่วยอย่างดีที่สุด จึงลดการจำนวนผู้เสียชีวิตและควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อต่อประชากรหนึ่งล้านคนในไทยให้อยู่ในกลุ่มที่มีจำนวนน้อยที่สุดของโลก เป็นผลงานของทีมคณะแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าสาธารณสุข ที่สังคมไทยต้องยกย่อง ถือว่าเป็น”ฮีโร่ของประเทศไทย”ในการต่อสู้กับ “มหาสงครามไวรัสโควิด-19”วิกฤติการครั้งใหญ่ของโลก
นายไพบูลย์กล่าวต่อ ข้อมูลจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อประชากรหนึ่งล้านคนในประเทศต่างๆได้ปรากฏในเว็บไซต์ https://www.worldometers.info/coronavirus/ ซึ่งได้เปรียบเทียบทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้เสียชีวิตต่อประชากรหนึ่งล้านคน โดยล่าสุด(27 มีค)ตัวเลขเฉลี่ยผู้เสียชีวิตต่อประชากรหนึ่งล้านคนได้แก่ อิตาลีเสียชีวิต 136 คน,สเปน 93 คน, ฝรั่งเศส 26 คน, อังกฤษ 9 คน, สหรัฐ 4 คน , เกาหลีใต้ 3 คน ,จีน 2 คน, มาเลเซีย 0.7 คน, ญี่ปุ่น 0.4 คน,และสิงคโปร์ 0.3 คน
ส่วนในไทยมีผู้เสียชีวิต 0.06 คนต่อประชากรหนึ่งล้านคน ซึ่งน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นเช่น น้อยกว่าอิตาลี 2,266 เท่า ,น้อยกว่าสหรัฐ 66 เท่า ,น้อยกว่าเกาหลีใต้ 50 เท่า,น้อยกว่าจีน 33เท่า และในประเทศเพื่อนบ้านเช่น น้อยกว่ามาเลเซีย 11 เท่า และน้อยกว่าสิงคโปร์ 5 เท่า
นายไพบูลย์กล่าวว่า นอกจากนั้นตัวเลขในเว็บไซต์ดังกล่าวปรากฏมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในไทยจำนวน 15 คนต่อประชากรหนึ่งล้านคน ซึ่งน้อยกว่าประเทศอื่นเช่น อิตาลีมีผู้ติดเชื้อ 1,333 คนต่อประชากรหนึ่งล้านคน, สเปน 1,236 คน, ฝรั่งเศส 447 คน, สหรัฐ 251 คน, เกาหลีใต้ 180 คน, อังกฤษ 172 คน, สิงคโปร์ 117 คน,จีน 56 คน และมาเลเซีย 63 คน
นายไพบูลย์กล่าวต่อ ตัวเลขค่าเฉลี่ยของจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตต่อประชากรแต่ละประเทศ เมื่อนำไปเปรียบเทียบกันแล้ว จะเห็นว่ารัฐบาลไทยได้มีการบริหารจัดการกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ในไทยได้ในระดับที่ดี เมื่อเปรียบเทียบกับรัฐบาลประเทศอื่นหลายประเทศ ซึ่งผลงานของรัฐบาลไทยเกิดขึ้นจากการร่วมมือร่วมแรงของทุกฝ่ายในสังคมไทยทั้งภาครัฐและเอกชน ยังต้องร่วมกันฟันฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจและสังคม ที่เป็นผลกระทบอย่างรุนแรงทั่วโลกจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19