เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563 เวลา 10.00 น. นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยทนายความส่วนตัว เดินทางไปยังสถานีตำรวจนครบาลบางขุนนนท์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาที่ พ.อ.ภิญโญ บุญทรงสันติกุล ซึ่งได้รับมอบอำนาจมาจากมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด แจ้งต่อเจ้าพนักงานตำรวจในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และมาตรา 328 สืบเนื่องจากการที่นายรังสิมันต์ อภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภาต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โดยเบื้องต้นได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งนายรังสิมันต์ ระบุว่าการตั้งคำถามหรือวิพากษ์วิจารณ์ต่อผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเสรีภาพที่ประชาชนพึงกระทำได้ อีกทั้งยังเป็นหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จะต้องตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐมนตรี โดยไม่จำกัดว่าจะต้องกระทำในที่ประชุมสภาเท่านั้น และยังได้แสดงความกังวลว่าหากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรวิจารณ์รัฐมนตรีแล้วยังถูกดำเนินคดีเช่นนี้ ประชาชนทั่วไปที่ต้องการวิจารณ์รัฐมนตรีบ้างจะต้องแบกรับความเสี่ยงขนาดไหน ทั้งนี้นายรังสิมันต์ยืนยันว่าจะต่อสู้คดีในกระบวนการยุติธรรมจนถึงที่สุด และจะไม่หลบหนีคดี
ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ได้มาร่วมสังเกตการณ์ในวันนี้ พร้อมกล่าวยืนยันว่า การอภิปรายของนายรังสิมันต์ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายค้านอย่างเหมาะสมแล้ว อีกทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่า ความพยายามปิดปากผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลนั้น เกิดขึ้นบ่อยครั้งนับตั้งแต่การรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา แม้กระทั่งในสถานการณ์ปัจจุบัน ก็ยังปรากฏกรณีที่รัฐบาลมุ่งปิดปากผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลในการรับมือการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 เช่น กรณีการทุจริตเกี่ยวกับการจัดสรรหน้ากากอนามัย หรือประเด็นความไม่เพียงพอของอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่เป็นผลดีต่อประโยชน์ของประชาชน สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือเปิดให้มีการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลได้อย่างถึงที่สุด ทั้งนี้ยืนยันว่าสมาชิกพรรคทุกคนขอร่วมให้กำลังใจกับนายรังสิมันต์ในการต่อสู้คดีนี้