นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างทั่วทุกภาคของประเทศ ดังนั้นการประกาศพรก.ฉุกเฉินจึงเป็นสิ่งจำเป็น พรรคเพื่อไทยเห็นด้วยกับรัฐบาลในการใช้มาตรการเคอร์ฟิว เพื่อจำกัดการเดินทางของประชาชน แม้ผลที่ออกมาจะชี้ชัดว่า ยังไม่สามารถที่จะหยุดยั้งการแพร่เชื้อโควิด-19 ได้ เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน
นอกจากนี้มีกระแสข่าวว่า หากยังควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไม่ได้ รัฐบาลจะขยายเวลาในการประกาศเคอร์ฟิวจาก 6 ชั่วโมงเป็น 10 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น แต่เชื่อว่ายังไร้ผลเพราะรัฐยังคงมองไม่เห็นปัญหา ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรถึงจะหยุดการแพร่เชื้อได้ ทั้งนี้เพราะมาตรการรัฐที่ผ่านมา เป็นมาตรการวิ่งตามปัญหาก็จะไม่มีทางสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อร้ายได้
นายสงวน กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้การบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลเป็นที่จับตามองของประชาชน ว่าจะได้ผลมากน้อยแค่ไหน และหวั่นว่าจะกระทบกับท้องถิ่น บางท้องถิ่นไม่มีงบประมาณดำเนินการในการแก้ปัญหาให้ประชาชน โดยเฉพาะการจัดหาหน้ากากอนามัยหรือเจลแอลกอฮอล์ล้างมือที่จะนำไปช่วยชาวบ้าน เพราะเห็นชัดว่า บ้านหนึ่งหลังตามต่างจังหวัดมีหน้ากากอนามัยไม่ครบจำนวนคนที่อยู่ในบ้าน เหตุผลสำคัญที่ งบประมาณท้องถิ่นมีไม่เพียงพอในการดูแลประชาชน เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลให้นำงบประมาณท้องถิ่นที่มีไปกระตุ้นเศรษฐกิจหมดแล้ว จึงไม่มีงบประมาณมาบริการประชาชน
“หากรัฐมีมาตรการที่เข้มขึ้นถึงขนาดห้ามออกจากเคหะสถาน 24 ชั่วโมง อยากถามว่า รัฐบาลเตรียมการรับมือในเรื่องนี้หรือไม่ มีงบประมาณในการดูแลประชาชนหรือไม่ โดยเฉพาะการบริการอาหารให้ประชาชนครบ 3 มื้อจะใช้งบประมาณจากไหน รัฐบาลควรมีมาตรการรองรับ และงบประมาณสนับสนุนในการช่วยเหลือประชาชนที่ชัดเจน เพราะมาตรการของรัฐที่ออกมาจะส่งผลกระทบกับความเป็นอยู่ของประชาชน”นายสงวนกล่าวในที่สุด