“นักเศรษฐศาสตร์” ชี้ “บิ๊กตู่” จ่อคิวนั่งนายกฯหลังเลือกตั้ง พร้อมชู 4 คุณสมบัติผู้นำชาติ

Sharing

ศ.ดร.พรายพล คุ้มทรัพย์ อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิเคราะห์ถึงนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า มีความตั้งใจทำงาน แต่เศรษฐกิจไทยมาถึงทางตันแล้ว เติบโตสูงสุดได้ไม่เกินปีละ 4% เพราะ คนทำงานมีน้อย ขณะที่เด็ก กับผู้สูงวัยมีจำนวนมากขึ้น เศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะซบเซาต่อเนื่อง ความด้อยคุณภาพของทรัพยากรบุคคลโดยเฉพาะเรื่องเทคโนโลยี

อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ เข้ามาเพื่อจัดการกับนโยบายประชานิยม ที่ก่อหนี้ให้ประเทศ และมีข่าวทุจริตคอรัปชัน จึงจัดการปราบโกง

แต่ปรากฏว่าเศรษฐกิจไทยไม่ดี ประชาชนมีปัญหาปากท้อง รัฐบาลจึงใช้นโยบายลดแลกแจกแถมมากยิ่งขึ้น บางส่วนก็เป็นประชานิยมเช่นแจกเงินคนจน มันไม่ได้ไปสร้างรากฐานอะไรให้ชาวบ้านเลย

ส่วนตัวการเกิดนโยบายทำนองนี้ คิดว่าน่าจะเกี่ยวกับเรื่องการเมืองแน่นอน เพราะหลายสื่อคาดว่าท่านจะไปต่อหลังเลือกตั้ง สำหรับแผนยุทธศาสตร์ชาติ ส่วนตัวสนับสนุนให้มี เพราะจะเป็นการตีกรอบรัฐบาลชุดใหม่ ให้สานต่อนโยบายของรัฐบาลชุดก่อน แต่อยากให้ดูแลเรื่องออกกฎหมาย เพราะหลายกฎหมายไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง

“เท่าที่ทราบ มีความพยายามจะเขียนว่าเศรษฐกิจไทยต้องโตอย่างต่ำ 5% ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ความกังวลคือ เขียนมาแล้ว ทำไม่ได้ ใครต้องรับผิดชอบ สู้ดีกลับไปเขียนให้มันทำได้จริงดีกว่า”

ในส่วนของการเลือกตั้ง กับการเติบโตของศรษฐกิจไทย ศ.ดร.พรายพล กล่าวว่า การเลือกตั้ง ย่อมทำให้ต่างชาติยอมรับมากยิ่งขึ้น หรับบุคคลิกผู้นำ โดยส่วนตัว คิดว่าใครก็เป็นนายกรัฐมนตรีได้ ขอให้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ ไม่มีเรื่องทุจริตคอรัปชั่น มีความมุ่งมั่นตั้งใจ เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ทั้ง กลุ่มธุรกิจ ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายประชาชน ซึ่งคนที่มีภาษีดีที่สุดหนีไม่พ้นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้งนี้ ไม่ได้ปิดโอกาสฝ่ายการเมือง เพราะทั้งคุณอภิสิทธิ์ หรือตัวแทนพรรคไหน ก็เป็นนายกฯได้ ขอให้มีคุณสมบัติที่ว่าก็พอ


Sharing
spot_img

Latest articles

Related articles

spot_img