หน้าแรก news เสมา 3 ลุยรับฟังความคิดเห็นผู้ปกครองต่อการจัดการศึกษาเอกชนในพื้นที่จังหวัดระยอง ชลบุรี และจันทบุรี

เสมา 3 ลุยรับฟังความคิดเห็นผู้ปกครองต่อการจัดการศึกษาเอกชนในพื้นที่จังหวัดระยอง ชลบุรี และจันทบุรี

0
เสมา 3 ลุยรับฟังความคิดเห็นผู้ปกครองต่อการจัดการศึกษาเอกชนในพื้นที่จังหวัดระยอง ชลบุรี และจันทบุรี
Sharing

(5 ตุลาคม 2563) ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) ลงพื้นที่จังหวัดระยอง เพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้ปกครองนักเรียนต่อการจัดการศึกษาเอกชน โดยมีผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนเอกชน และข้าราชการสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดซึ่งดูแลโรงเรียนเอกชนในจังหวัดระยอง ชลบุรี และจันทบุรี เข้าร่วมกว่า 150 คน ณ โรงแรมโกลเด้น ซิตี้ ระยอง จังหวัดระยอง

ดร.กนกวรรณ กล่าวว่า การเปิดเวทีในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้ปกครองนักเรียนในการนำไปประกอบการจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อยกระดับมาตรฐานการศึกษาเอกชน และสร้างมาตรการในการคุ้มครองผู้บริโภคบนพื้นฐานที่ต้องการให้ผู้เรียนได้รับบริการทางการศึกษาที่มีคุณภาพ มีระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ของโรงเรียนเอกชน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระบบการจัดการศึกษาเอกชนให้แก่ นักเรียน ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไป

และสำหรับความคิดเห็นที่ผู้ปกครองได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็น และเสนอแนะนั้น มีหลายมิติ อาทิ ด้านการจัดการเรียนการสอน ได้แก่

1. จัดให้มีระบบการแนะแนวและให้คำปรึกษาหลากหลายช่องทาง โดยพัฒนาครูแนะแนว เพื่อให้คำปรึกษากับนักเรียนและผู้ปกครอง โดยเฉพาะเด็กปฐมวัย

2. ระบบการศึกษาในปัจจุบันจะไม่ได้มุ่งเน้นด้านประวัติศาสตร์ ศีลธรรม จริยธรรม พระพุทธศาสนา ขอให้โรงเรียนพัฒนาสื่อการเรียนการสอนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว  ให้ทันสมัย และมีความหลากหลายมากขึ้น

3. ขอให้โรงเรียนเอกชนทั้งในระบบและนอกระบบผ่านการรับรองจากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อรับรองคุณภาพและมาตรฐานของโรงเรียน

ด้านครูผู้สอน และบุคลากรทางการศึกษา โดยขอให้มีกระบวนการคัดเลือกครูผู้สอน และบุคลากรทางการศึกษาที่มีคุณภาพ การตรวจสอบการบรรจุครูโรงเรียนเอกชนให้มีวุฒิการศึกษาและใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ

ด้านการบริหารจัดการ ความสะอาด สุขอนามัย ความปลอดภัย ได้แก่

1. การจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ขอให้โรงเรียนจัดห้องเรียนตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขแบบเว้นระยะห่าง เคร่งครัดในการใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

2. ขอให้ดูแลการจัดหา/จัดทำอาหารกลางวันให้นักเรียนให้มีคุณภาพ ถูกสุขลักษณะ

3. หน่วยงานของรัฐควรเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองเข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาร่วมกับโรงเรียน รวมถึงมีการติดตามประเมินผลการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

4. การจัดการเรื่องความปลอดภัยภายในโรงเรียนเอกชน เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดแบบ real-time ให้ผู้ปกครองตรวจสอบความปลอดภัยของนักเรียน โดยกำหนดเป็นมาตรฐานให้ทุกโรงเรียนปฏิบัติ

5. มีช่องทางในการสื่อสาร ร้องเรียนระหว่างผู้บริหารโรงเรียน ครู และผู้ปกครองที่สะดวกและรวดเร็ว

6. ขอให้มีการจัดตั้งกลุ่มเครือข่ายผู้ปกครองทั่วประเทศ และมีทีมงานของกระทรวงศึกษาธิการเข้าไปร่วมรับฟังปัญหา และหาแนวทางแก้ไข

ข้อมูลเหล่านี้ ถือได้ว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก เราจะได้นำไปปรับปรุง หาทางป้องกันเหตุต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น โดยจะต้องได้รับความร่วมมือหลายภาคส่วน ทุกหน่วยต้องร่วมมือกัน และต้องทำอย่างจริงจัง และขอขอบคุณ พ่อแม่ผู้ปกครองที่มาในวันนี้ ที่มาร่วมกันแชร์ความคิด และการเสนอแนะข้อมูลต่างๆ ตนรับไว้ทุกข้อ และจะนำไปหารือ เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาต่อไป ดร
กนกวรรณ กล่าวทิ้งท้าย

 


ข่าว: เอื้อมพร สุเมธาวัฒนะ / กรรณิกา พันธ์คลอง
ภาพ: ปรานี บุญยรัตน์ / ณัฐวุฒิ วากะดวน


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่