ไม่ยอมแน่ ถ้ามาแตะเรื่องสำคัญ ! “ส.ว.เสรี” ขยับแล้ว เตือน อย่าคิดว่ามีเสียงข้างมากแล้วจะเหลิง
นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงกรณีฝ่ายการเมืองเรียกร้องให้ ส.ว.โหวตสนับสนุนพรรคก้าวไกล ที่ชนะเลือกตั้งอันดับ 1 ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า
ต้องดูการรวบรวมเสียงของพรรคก้าวไกล จะรวบรวมเสียงได้ 310 เสียงจริงหรือไม่ ขณะนี้เป็นแค่การพูดฝ่ายเดียวจากพรรคก้าวไกล แต่พรรคอื่นๆ ยังไม่มีใครแสดงเจตจำนงตอบตกลงร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการ
หลังจากรวบรวมเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว ส.ว.ก็จะพิจารณานโยบายต่างๆ ของพรรคร่วมรัฐบาล ถ้ามีการยกเลิกหรือแก้ไขเรื่องสำคัญอย่างมาตรา 112 ตนไม่สามารถโหวตให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ ได้แน่ ไม่ใช่แค่เฉพาะนายพิธา แม้แต่เสนอชื่อคนพรรคอื่นเป็นนายกรัฐมนตรี ถ้ามีนโยบายแตะต้องมาตรา 112 ก็ไม่โหวตให้เช่นกัน
“การจะเข้ามาบริหารประเทศต้องไม่มีเรื่องกระทบความมั่นคง สถาบัน การบอกว่าแก้ไขแต่ไม่ยกเลิกเป็นแค่การเล่นคำ เท่าที่ฟังเสียง ส.ว.ส่วนใหญ่ก็ไม่เอาด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 ถ้าปล่อยให้แก้ไขมาตรา 112 คนที่ไม่เห็นด้วยก็ต้องต่อต้าน เกิดความขัดแย้งวุ่นวายอีก” นายเสรี กล่าว
เมื่อถามว่า การที่ ส.ว.ไม่โหวตให้เสียงข้างมากได้ครบ 376 ในการโหวตนายกฯ จะถูกมองเป็นการขัดขวางการตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า
ก็ให้มองกันไป ส.ว.ไม่ได้คิดว่ารวมเสียงแล้วจะได้เท่าไร แต่อยู่ที่จะใช้อำนาจทำอะไรให้ประเทศ อย่าคิดว่ามีเสียงข้างมากแล้วจะเหลิง ลุแก่อำนาจ ทำอะไรก็ได้ ควรทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ สร้างสามัคคี เพราะคะแนนที่ได้มา ไม่ใช่คะแนนทั้งประเทศ พรรคก้าวไกลได้คะแนน 14 ล้านเสียง ก็ไม่ใช่ฉันทามติอะไร เพราะพรรคอื่นๆ ก็ได้คะแนนหลักล้าน เป็นเสียงจากประชาชนเช่นกัน
“ถ้าคิดจะสร้างกระแสกดดัน ส.ว.ลงมติให้ตามที่ต้องการ โดยอ้างฉันทามติมาเป็นกระแสกดดัน รับรองว่า ไม่สามารถมากดดัน ส.ว.ได้ เราพร้อมใช้อำนาจหน้าที่อย่างเหมาะสมถูกต้อง”