“อีคอนไทย” เตรียมยื่น กกต. ออกกฎห้ามใช้ค่าจ้างขั้นต่ำหาเสียง ชี้คนจ่ายไม่ใช่รัฐบาลแต่เป็นเอกชน
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2566 นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) เปิดเผยถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคดดิเดตนายกรัฐมนตรี อาจจะไม่ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท ใน 100 วัน นั้น แนวคิดดังกล่าวสอดคล้องกับความคิดเห็นของนายจ้างส่วนใหญ่ แต่สุดท้ายแล้ว ต้องมีการปรับขึ้นตามนโยบายที่ได้มีการหาเสียงไว้อยู่ดี ซึ่งในฝั่งของนายจ้าง หรือผู้ประกอบการก็ชัดเจน ว่า จ่ายไม่ไหวซึ่งอยากให้พรรคก้าวไกล พิจารณาผลกระทบ เพราะการปรับค่าแรงขั้นต่ำจาก 354 บาทต่อวัน เป็น 450 บาทต่อวัน เท่ากับปรับขึ้นทันที 30% ทั้งประเทศ จะเกิดผลกระทบอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องหาจุดลงตัว ที่ทำให้นโยบายเดินไปได้
“แนวทางการปรับค่าแรงขั้นต่ำ ควรเป็นแบบการเพิ่มค่าแรงตามทักษะของแรงงานที่เพิ่มขึ้น รวมถึงต้องผ่านการทดสอบวัดผล โดยให้แรงงานได้ฝึกเพิ่มทักษะแล้วไปสอบเพื่อปรับขึ้นค่าจ้าง ซึ่งทั้งหมดนี้คือ เปย์ บาย สกิล โดยจะทำให้นายจ้างมีเวลาในการปรับตัวได้มากขึ้นอีกด้วย. นายธนิต กล่าว
นายธนิต กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังเสนอไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ออกกฎห้ามพรรคการเมืองนำเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำมาใช้หาเสียง เพราะคนจ่ายค่าจ้างไม่ใช่รัฐบาลแต่เป็นเอกชน ควรพิจารณาให้เป็นไปตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ หากไทยปรับขึ้นเป็น 450 บาท ตามที่พรรคก้าวไกลหาเสียงไว้ จะส่งผลให้ค่าแรงขั้นต่ำของไทยและเวียดนาม ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญ ในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ทิ้งห่างกันถึง 107 บาทต่อคน จากปัจจุบันห่างกันประมาณ 11 บาทต่อคน ซึ่งตัวเลขนี้กำลังเป็นที่กังวลของผู้ประกอบการไทย ที่จะทำให้เวียดนามได้เปรียบไทยมากขึ้น และแรงงานเองก็กังวลว่า อาจต้องโดนคัดออกอีกครั้ง เนื่องจากผู้ประกอบการแบกรับต้นทุนไม่ไหวเช่นกัน