นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย ชี้แจงแผนการปฏิรูป ที่อาจถูกปรับใหม่หลังเลือกตั้งว่า
รัฐบาลเลือกตั้งจะต้องเข้ามาปรับเปลี่ยนแน่นอน แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการจะแก้รัฐธรรมนูญนั้นเป็นเรื่องยาก ทั้งนี้ ถ้ารัฐบาลหลังเลือกตั้งมีนายกฯชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็จะไม่มีปัญหา แต่ถ้านายกฯเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หรือนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ น่าจะเกิดความวุ่นวาย เพราะถึงอย่างไรเขาก็ต้องจัดการกับคณะกรรมการเหล่านี้
“อย่างไรก็ตาม หลังเลือกตั้งเชื่อว่ากรรมการปฏิรูปยังจะไปได้ต่อ แต่อยู่ที่ว่าจะต่ออย่างขัดแย้งหรือเต็มใจ ถ้าต่อแบบเต็มใจทุกอย่างก็แฮปปี้ เอนดิ้ง แต่ถ้าต่อแบบขัดแย้ง มันจะดูไม่จืด
สมมุตินายกฯชื่อธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แม้นายกฯจะมีคณะรัฐมนตรี(ครม.)และสภาเป็นแนวร่วม แต่ คสช.มี ส.ว. ก็ลองจิตนาการดูแล้วกัน ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นในโครงสร้างทางการเมืองไทย มันจะหนีความขัดแย้งไม่พ้น แต่ถ้านายกฯหลังเลือกตั้งคือ พล.อ.ประยุทธ์ มันก็ราบรื่น ทั้งนี้ ผมตอบไม่ได้ว่าหลังเลือกตั้งนายกฯจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ ผมไม่ใช่ผู้มีญาณหยั่งรู้มหาสมุทรเหมือนขงเบ้ง และผมไม่ได้สนับสนุนอะไรทั้งสิ้น แต่ผมก็ไม่ได้คัดค้าน มันอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ที่ประชาชน อยู่ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อยู่ที่สมาชิกวุฒิสภา เป็นปัจจัยที่ผมคุมไม่ได้ทั้งนั้น และผมก็ไม่อยากยุ่งกับการเมือง”
ส่วนความคืบหน้าของแผนปฏิรูปประเทศ นายบวรศักดิ์ระบุว่า มองไม่เห็นว่าจะไปจบลงอย่างไร ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีการตั้งองค์การอย่างสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ก่อนยุบตั้งสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) แล้วยุบตั้งคณะกรรมการปฏิรูปด้านต่างๆ 11 คณะ ซึ่งทุกคณะมีแต่แผน แล้วให้ส่วนราชการเป็นผู้ปฏิบัติ แต่คิดว่าการใช้ส่วนราชการเป็นฝ่ายปฏิบัตินั้น ไม่ใช่เรื่อง่ายที่จะสำเร็จ เพราะเหมือนกับให้ผู้ที่ถูกปฏิรูปมาทำเรื่องปฏิรูปเสียเอง นอกจากนี้ระบบราชการยังคิดแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป ต่างจากกรรมการปฏิรูปที่ต้องการลงมือทำในทันที ดังนั้น จึงไม่แน่ใจว่าการปฏิรูปจะสำเร็จหรือไม่ เพราะเหมือนกับให้ผู้รับเหมามาทำหน้าที่ตรวจงานตัวเอง