หน้าแรก Article เพื่อไทยปรับทัพ ดึงคนรุ่นใหม่เสริม พรรคใหม่ปั้นตัวเลข ดึงอดีต ส.ส. หวังโกยคะแนน

เพื่อไทยปรับทัพ ดึงคนรุ่นใหม่เสริม พรรคใหม่ปั้นตัวเลข ดึงอดีต ส.ส. หวังโกยคะแนน

0
เพื่อไทยปรับทัพ ดึงคนรุ่นใหม่เสริม พรรคใหม่ปั้นตัวเลข ดึงอดีต ส.ส. หวังโกยคะแนน
Sharing

หลายวันก่อนหน้านี้ แวดวงการเมืองมีเรื่องฮือฮาเมื่อสำนักข่าวมติชนรายงานข่าวชิ้นหนึ่งที่ว่า “เปิดโพลแม้ว-งัดเกมล็อกพรรคใหญ่สู้ ช็อกพท.-เขย่าปชป.” ทำเอาแวดวงการเมือง ฮือฮาโพล “ทักษิณ” พูดกันปากต่อปาก กลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ในหมู่นักการเมือง ว่ากันว่า “ทักษิณ” ซุ่มทำโพลหลายรอบ ผลออกมาคือชนะเลือกตั้งถล่มทลาย บอสใหญ่ “ดูไบ” เล่าให้นักธุรกิจใหญ่ที่บินไปพบว่า ให้คอยดูเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยเคยชนะ กวาดที่นั่ง ส.ส.ได้เท่าไหร่ ครั้งนี้ จะได้มากกว่านั้น จังหวัดที่ไม่เคยชนะ อย่างสุพรรณบุรี พื้นที่ฐานเสียงชาติไทยพัฒนา จะช็อกถึงขั้นที่ว่า แม้แต่ท็อป-วราวุธ ศิลปอาชา ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ทายาทการเมืองคนสำคัญ “บรรหาร ศิลปอาชา” ก็จะสูญพันธุ์ ตัวเลขที่พูดกันคือเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้ง กวาดที่นั่ง 264 บวกลบสิบ แต่โพลก็คือโพล อย่างที่บิ๊กทหารว่าไว้

แต่กระนั้นก็ตามกลายมาเป็นประเด็นหลักที่ว่า ด้วยตัวเลขที่มีการประเมินกันมาของหน่วยงานราชการที่ออกมาก่อนหน้านี้แม้ว่าจะมีความพยายามที่จะใส่ตัวเลขที่ไม่ดูให้เวอร์วังอลังกาอย่างไรก็ตามแต่ พบว่าตัวเลขที่ออกมาแม้โพลหน่วยงานรัฐจะออกมาทิศทางเดียวกัน นั่นคือ เพื่อไทยชนะเลือกตั้งเหมือนกัน ต่างกันที่ตัวเลข มากน้อย จากเมื่อ 2560 ที่หน่วยงานด้านความมั่นคงเคยสำรวจหากมีการเลือกตั้งจะเลือกพรรคใด ผลปรากฏว่าพรรคเพื่อไทยมีตัวเลขออกมาที่ 220 เสียง

ตัวเลขที่ออกมาทำเอาบรรดาผู้ใหญ่ในรัฐบาลหัวเสียกันยกใหญ่หาวิธีการใดก็ได้ที่จะทำให้ตัวเลขเหล่านี้ลดลง ก็พยายามเสนอให้ผู้ใหญ่ในรัฐบาลมีการเดินทางพบปะชาวบ้านของผู้นำรัฐบาลและกดดันแกนนำและส.ส.พรรคเพื่อไทย ห้ามมีการขยับตัว เพราะด้วยความเชื่อที่ว่าหากห้ามให้ออกพื้นที่ได้ก็จะทำให้ชาวบ้านลืมในที่สุด

ในขณะเดียวกันก็ให้พรรคที่หนุนรัฐบาลเดินหน้าเต็มสูบในการดูดแกนนำส.ส.หรือแม้แต่แกนนำท้องถิ่นให้มากที่สุด ก็ปรากกว่าได้ผลในประมาณหนึ่งคือมีการสำรวจรอบใหม่พรรคเพื่อไทยลดลงจากเดิมอยู่ที่ 175 เสียง ทำเอาบรรดาผู้ใหญ่ในรัฐบาลยิ้มออก

จากตัวเลขที่ออกมาล่าสุด ส่งผลให้การเดินหน้าในการเลือกตั้งและการดูดอดีต ส.ส. ย้ายพรรคมากขึ้น จนกระทั่งล่าสุดมีข่าวลือหนาหูออกมาในสนามการเมืองว่า ตัวเลขที่มีการพูดถึงกันคือ 1-2 ล้านบาทต่อ 1 คนบวกกับค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่ 500,000 บาท คือตัวเลขบรรดาคนการเมืองเกรดเอ แต่หากเป็นเกรดรองลงมาตัวเลขก็จะลดต่ำลงไปตามลำดับ

ในขณะเดียวกันผู้นำท้องถิ่นหรือนักการเมืองระดับชาติที่มีชนักติดหลังก็เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่พรรคการเมืองพรรคใหม่พรรคหนึ่งที่มีทั้งกำลังและทรัพย์ หมายตาไว้ ด้วยอำนาจรัฐที่มีและการช่วยเหลือบางอย่างทำให้บรรดา ส.ส. ที่มีชนักติดหลังปฏิเสธด้วยความลำบาก นอกจากนี้มีการดูดนักธุรกิจในพื้นที่มาอยู่ในพรรคด้วย

จากการเดินเกมหนักและมีอำนาจรัฐหนุนของพรรคการเมืองบางพรรค ทำเอาบรรดาพรรคการเมืองโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยต้องปรับตัวกันยกใหญ่ พร้อมกันนั้นการเปิดนโยบายดังกล่าวเป็นสิ่งหนึ่งที่กำลังทำให้พรรคการเมืองหลายพรรคปวดหัวเพราะแก้เกมไม่ทัน เนื่องจากถูดดองเค็มไว้ในโหล ขยับตัวก็ไม่ได้ จะออกไปไหนก็ลำบาก

เมื่อเป็นเช่นนี้คนโตจากดูไบกำลังแก้เกมใหม่ ให้กับพรรคเพื่อไทย ทั้งการกำหนดนโยบายใหม่ การรักษาพื้นที่เลือกตั้ง ส.ส.และการให้กำลังใจ ส.ส.ที่ยังอยู่กับพรรค ว่ากันว่าไม่ห้ามใครจะไป แต่ใครอยู่ก็จะดูแลกันเมื่อมีโอกาส พร้อมกับเปิดโอกาส ให้คนรุ่นใหม่เข้ามาเป็นแถวหน้ามากขึ้น รองรับการหายไปของรุ่นใหญ่ในอนาคต

ล่าสุดมีข่าวว่ากำลังระดมสมองในการกำหนดนโยบายที่จะทำงานร่วมกันระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ในการขับเคลื่อนประเทศ การกำหนดมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและการดึงคนรุ่นใหม่เข้ามาสานงานต่อจากคนรุ่นเก่า สิ่งที่พรรคเพื่อไทยกำลังคิดออกมาเป็นนโยบายใหม่ที่ทั่วโลกยอมรับกำลังมีการระดมสมองจากกูรูทั้งในและต่างประเทศ ทั้งการค้า การลงทุน เพื่อผลักกดันให้เกิดขึ้นในอนาคต

นี่คือสิ่งที่พรรคเพื่อไทยกำลังดำเนินการ มีการหารือกันของคณะกรรมการยุทธ์ศาสตร์พรรคเพื่อไทยในวาระต่างๆกันเป็นจำนวนมาก อีกทั้งมีการหารือของกลุ่มนักการเมืองคนรุ่นใหม่ในการช่วยกันผลักดันนโยบายของพรรคออกไปสู่สาธารณะมากขึ้น

เพราะด้วยการเลือกตั้งครั้งหน้าจะชี้ชะตาประเทศไทยหลังจมอยู่กับที่มานานเกือบ 5 ปี จึงเป็นเรื่องที่ฝ่ายการเมืองทุกคนรู้ดีว่าการทำงานจะหนักหนาแค่ไหน ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งหน้าจึงมีความสำคัญ บรรดาพรรคการเมืองต่างๆ รู้ว่าหลังการเลือกตั้งจะทำเช่นไร จะเตะตัดขากันแบบเดิมหรือจะร่วมมือกัน คือคำตอบของการเมืองในอนาคต

อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งครั้งหน้า เชื่อว่าเป็นการแข่งขันกันระหว่างพรรคการเมืองเก่าเช่นเดิมคือ เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ส่วนพรรคการเมืองที่ตั้งใหม่อาจจะต้องลุ้นกันหนัก

ที่แน่นอนคือจนถึงวันนี้ชาวบ้านมี ส.ส.และพรรคการเมืองในใจแล้ว ไม่ว่าจะเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็จะกาชื่อ ส.ส.คนนั้นไม่เปลี่ยน เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการกำหนดอนาคตของตัวเจ้าของสิทธิ์ ดังนั้นเป็นที่แน่ชัดว่าการเลือกตั้งด้วยบัตรใบเดียวประชาชนเจ้าของสิทธิ์จะไม่ยอมให้ใครมาเอาไปอย่างแน่นอน

Ringsideการเมือง


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่