“ปดิพัทธ์” โยน “ก้าวไกล” ตัดสินใจ เก้าอี้รองประธานสภา รับ อยากสานงานที่วางไว้ต่อ

Sharing

“ปดิพัทธ์” โยน “ก้าวไกล” ตัดสินใจ เก้าอี้รองประธานสภา รับ อยากสานงานที่วางไว้ต่อ

วันที่ 27 กันยายน 2566 ที่รัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีความชัดเจนในตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 ว่า ขณะนี้พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ยังไม่ได้นัดหมายกับตนเพื่อพูดคุยเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ แค่รับทราบว่ามีการประชุมเรื่องนี้กันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการตัดสินใจทั้งหมดไม่ได้อยู่ที่ตน และต้องฟังทางพรรคก่อน เพราะตนยังเป็นสมาชิกของพรรค ก.ก.อยู่ เมื่อกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่มีมติอย่างไรก็ต้องมีการพูดคุยกัน

เมื่อถามว่า ทาง ส.ส.พรรคมีมติที่จะรับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภา จะกระทบกับตัวเองในฐานะต้องตัดสินใจหรือไม่ นายปดิพัทธ์กล่าวว่า แน่นอนเพราะเราไม่ได้ตัดสินใจทุกอย่างตามอำเภอใจ ทุกอย่างตัดสินใจตามมติพรรค และข้อจำกัดทางรัฐธรรมนูญฉะนั้นต้องหารือกันว่าทิศทางใดดีที่สุดกับประเทศ ไม่ใช่ดีที่สุดแค่ตนเอง

“ผมบอกว่าการตัดสินใจเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของตัวผมเอง แต่เป็นการตัดสินใจด้วยการสะท้อนเสียงประชาชนให้ได้มากที่สุด และมีผลประโยชน์ให้กับประเทศให้ได้มากที่สุด” นายปดิพัทธ์กล่าว

เมื่อถามว่า มีข้อมูลว่าพรรค ก.ก. จะเก็บไว้ทั้ง 2 ตำแหน่ง โดยจะขับนายปดิพัทธ์อยู่อีกพรรค นายปดิพัทธ์กล่าวว่า ตนขอฟังจากปากหัวหน้าพรรคคนใหม่ก่อน เพราะตอนนี้เรารับข้อมูลจากคนอื่น ทั้งนี้ การตัดสินใจทั้งหมดไม่ได้มีการตัดสินใจด้วยความกดดัน หรือเป็นการตัดสินใจที่ไร้ทางเลือก แต่เป็นการตัดสินใจบนพื้นฐานว่า เราจะขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ที่สัญญากับประชาชนไว้ว่าอย่างไร ซึ่งคงจะมีการพูดคุยกันในเร็วๆ นี้

เมื่อถามต่อว่า ส่วนตัวอยากสืบทอดงานของรองประธานสภาต่อใช่หรือไม่ นายปดิพัทธ์กล่าวว่า คิดว่างานหลายอย่างเสร็จไปแล้ว แต่อีกหลายอย่างต้องใช้เวลา โดยเฉพาะต้องทำหลังจากการส่งมอบสภาเสร็จ ตนคิดว่าต้องมีงานระยะยาวที่ตนฝันไว้ว่าอยากเห็น เพื่อสามารถขับเคลื่อนให้รัฐสภาโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เป็นของประชาชนได้ แต่ถามว่างานระยะสั้นบรรลุผลไปแล้วหรือไม่ ก็พอมี ทั้งนี้ ส่วนตัวการได้ทำตำแหน่งนี้ เราได้เห็นพัฒนาการ ได้เห็นงานที่เราสามารถทำได้ และดีกับประเทศด้วย ซึ่งการที่ตนบอกว่า จะทำรัฐสภาให้โปร่งใสคนที่ได้ประโยชน์ไม่ใช่ตน แต่เป็นประเทศได้ประโยชน์ ถามว่าอยากอยู่ในตำแหน่งต่อหรือไม่ แต่จะทำได้หรือไม่ได้อยู่ที่ข้อจำกัดต่างๆ

เมื่อถามว่า แสดงว่ายังมีเวลาตัดสินใจจนถึงสมัยประชุมสภาครั้งหน้าใช่หรือไม่ นายปดิพัทธ์กล่าวว่า ไทม์ไลน์ทั้งหมดอยู่ที่พรรค ก.ก. อย่างไรก็ตามตนต้องคุยเรื่องนี้กับพรรคจริงๆ เพราะหากตนไม่ยอมตัดสินใจ ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านก็ไม่สามารถแต่งตั้งได้ ซึ่งเราต้องวิเคราะห์ผลดีและผลเสียให้รอบคอบ ซึ่งต้องวิเคราะห์และตัดสินใจร่วมกัน

เมื่อถามว่า มองความกดดันจากวิปรัฐบาลไว้อย่างไรว่าต้องเลือกตำแหน่งเดียว นายปดิพัทธ์กล่าวว่า ยังไม่มีแรงกดดันมา

#Ringsideการเมือง


Sharing
spot_img

Latest articles

Related articles

spot_img