อย่าเล่นตุกติกเสียเอง
“พรรคก้าวไกลพยายามยกระดับการเมืองไทยใหม่ ด้วยการสร้างมาตรฐานของนักการเมืองให้สูงขึ้น … เมื่อยกระดับมาตรฐานเอาไว้สูง จึงเป็นธรรมดาอยู่เองที่จะถูกสังคมเรียกร้องมากเป็นพิเศษ ดังนั้น ส.ส.ของพรรคก้าวไกลจึงจำเป็นต้องระมัดระวังเรื่องการครองตนมากกว่า ส.ส.พรรคอื่นๆ”
เป็นส่วนหนึ่งที่ “เดอะป็อก” หรือนายปิยบุตร แสงกนกกุล วิเคราะห์ถึงปัญหาของพรรคก้าวไกล ซึ่งสิ่งที่นายปิยบุตรพูด กำลังสะท้อนความเป็นจริงของมันออกมาจากกรณีของ “หมออ๋อง”
สถานการณ์ล่าสุดของ “หมออ๋อง” หรือ นายปดิภัทร สันติภาดา กำลังนั่งเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ในโควต้าของพรรคก้าวไกล แต่เมื่อพรรคก้าวไกล ขยับขึ้นไปเป็นหัวหน้าฝ่ายค้าน “หมออ๋อง” ต้องสละตำแหน่งทันที เนื่องจากกฎหมายมีข้อห้ามไว้ ว่าพรรคผู้นำฝ่ายค้าน จะนั่งในตำแหน่งประธานฯ – รองประธานสภาฯ ไม่ได้
หาก “หมออ๋อง” ต้องการรักษาไว้ซึ่งตำแหน่ง จำต้องย้ายพรรค
และการได้นั่งตำแหน่งรองประธานสภาฯ ถือว่า เป็นอาวุธของพรรคก้าวไกล ในการรับยื่นกฎหมายสำคัญเข้าสู่สภา
แต่ปัญหาคือตัวหมออ๋อง ต้องไม่สังกัดพรรคก้าวไกล
จุดนี้เอง จึงมีข่าวลือว่า “หมออ๋อง” จะต้องถูกพรรคก้าวไกล ขับออกจากพรรค แบบรู้เห็นเป็นใจ แล้วไปสังกัดพรรคอื่น ที่พร้อมอ้าแขนรับ ซึ่งคาดกันว่า จะเป็นพรรคเป็นธรรมนี่เอง
ซึ่งบางคนมองกันว่าทั้งหมดนั้นคือ “แทคติกการเมือง” ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นกับพรรคก้าวไกล ซึ่งโฆษณาสรรพคุณของตนไว้เลิศเลอ
จึงเป็นช่องให้อดีตเกลอเก่าอย่างเพื่อไทย ได้ออกมาวิจารณ์
นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า
“ได้โหวตเลือกนายปดิพัทธ์ขึ้นเป็นรองประธานสภาด้วยความสง่างาม อยากให้คนที่ทำหน้าที่ได้ดี ได้ทำหน้าที่ต่อ แต่อย่าสร้างนิติกรรมอำพราง เพราะเดินขึ้นบัลลังก์จะไม่มีใครเคารพ”
“ขับเขา เขามีความผิดอะไร การเป็นรองประธานสภา เป็นความผิดร้ายแรงเชียวหรือ ไม่มีในข้อบังคับของพรรคไหนหรอก แต่ว่าจะเล่นละครปาหี่กันผมไม่เห็นด้วย
ผมหาความผิดของนายปดิพัทธ์ไม่มีความผิด ผมขอเตือนทุกพรรคจะขับสมาชิกออกต้องดูสังคมด้วย ผมจะไม่ยื่นตีความในเรื่องนี้ เพราะเลือกรองประธานสภาคนนี้มากับมือ
แต่นายปดิพัทธ์เดินในสภา จะมีเงาแห่งเกียรติยศตามหลังหรือไม่ หวังว่าพรรคการเมืองทุกพรรคจะไม่ขับใครโดยไม่มีข้อหา”
นายอดิศรโชว์ความเก๋าพูดดักทางไว้ก่อนเลย
แน่นอนว่า สังคมเอง จำนวนไม่น้อย ก็คิดเหมือนนายอดิศร คือ ต้องการเห็นพรรคก้าวไกล รักษามาตรฐานให้ถึงที่สุด เพียงทว่า แต่ละฝ่าย มีเป้าหมายความอยากเห็นที่ต่างกัน ฝ่ายการเมือง อาจไม่ต้องการให้ก้าวไกล ได้รับตำแหน่ง หรือมีอำนาจ ประการใด แต่ฝ่ายประชาชน โดยเฉพาะคนที่รัก และศรัทธาพรรคก้าวไกลนั้น มั่นใจว่าเลือกพรรคก้าวไกล เพราะต้องการสร้างมาตรฐานให้การเมืองไทย เป็นเกมอำนาจที่ตรงไป ตรงมา ไม่มีซิกแซก แทคติก และเชื่อว่าคงจะเซ็งไม่น้อย
หากก้าวไกล จะกลับไปเล่นเกมตุกติกแบบเก่าๆ เสียเอง