สนองนโยบาย “มท.1” ! “ผู้ว่าฯ เมืองคอน บุกค้นโรงงานผลิตแบลงค์กัน พบดัดแปลง 3 กระบอก กระสุนอื้อ เตรียมขยายผลรวบทั้งขบวนการ

Sharing

สนองนโยบาย “มท.1” ! “ผู้ว่าฯ เมืองคอน บุกค้นโรงงานผลิตแบลงค์กัน พบดัดแปลง 3 กระบอก กระสุนอื้อ เตรียมขยายผลรวบทั้งขบวนการ

วันที่ 11 ตุลาคม 2566 เวลา 06.00 น. นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผวจ.นครศรีธรรมราชพล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช กำลังตำรวจสืบสวนจากภาค8และตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราชและตำรวจตม.รวมกำลังกว่า 20นายพร้อมอาวุธปืนครบมือ ได้สนธิกำลังนำหมายค้นศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เลขที่492/2566 ลงวันที่ 11ตค.2566 เข้าตรวจค้นบ้านเช่าเลขที่ 556/401 ซอยสาย3 หมู่บ้านการเคหะอ้อมค่าย 2 ม.5 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากสืบทราบว่าเป็นแหล่งผลิตอาวุธปืนและลำกล้องปืนหลายชนิดส่งขายทางออนไลน์ของบริษัทชื่อดังต่างๆหลายบริษัท

นายขจรเกียรติ เผยว่า

“การปราบปรามโรงงานผลิตอาวุธปืนเป็นนโยบายของ มท.1 รมว.มหาดไทย ซึ่งได้สั่งกำชับให้ตรวจค้นและจับกุมอย่างเข้มข้น ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ถือว่าเป็นการสนองนโยบายของ รวม.มหาดไทยและจะทำต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง รวมทั้งนโยบายการขอใบอนุญาตมีและพกพาอาวุธปืนตนจะไม่มีการเซ็นต์ใบอนุญาตให้ใครโดยเด็ดขาดเพื่อสนองนโยบายของรวม.มหาดไทยเต็มที่”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกำลังตำรวจชุดสืบสวนทั้งหมดเดินทางไปถึงพบว่าไม่มีใครอยู่ในบ้านจึงบุกเข้าไปตรวจค้นตามหมายค้นของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปในบ้านถึงกับตะลึงเมื่อพบหลักฐานอุปกรณ์ผลิตอาวุธปืนและแท่นกลึงผลิตลำกล้องอาวุธปืนจำนวนมากกระจายอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว โดยบริเวณหลังบ้านพบแท่นกลึงสำหรับผลิตลำกล้องอาวุธปืนชนิดต่างๆและลำกล้องอาวุธปืนวางอยู่จำนวนนับร้อยอัน

และในห้องพักห้องแรกซึ่งดัดแปลงเป็นห้องเก็บเสียงอย่างดี สำหรับผลิตลำกล้องอาวุธปืนขนาดต่างๆ จนท.ตำรวจพบอาวุธปืนชนิดแบงค์กันจำนวน 3กระบอก ลำกล้องที่มีการตัดและดัดแปลงให้เข้ากับอาวุธแบลงค์กันแล้วจำนวนมากที่กำลังเตรียมแพคส่งไปให้ลูกค้าทางออนไลน์ช่องทางต่างๆ และพบกระสุนปืนขนาด.38จำนวนนับร้อยนัดในกล่องบรรจุกระสุนปืน และมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดหน้าบ้านและรอบบ้านจำนวน5ตัวด้วยกันและพบเซฟเวอร์กล้องวงจรปิดสำหรับดูความคเคลื่อนไหวบริเวณหน้าบ้านและรอบบ้านด้วย

และอีกห้องใกล้กันจนท.พบกล่องลังกระดาษสำหรับเตรียมส่งสินค้าให้กับลูกค้าทางขนส่งเอกชนต่างๆวางอยู่เกลื่อนห้อง ซึ่ง จนท.ได้ตรวจเก็บหลักฐานทั้งหมดเพื่อตรวจสอบต่อไปแล้ว ซึ่งจเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานนครศรีธรรมราชได้มีการตรวจเก็บหลักฐานทั้งหมดเพื่อดำเนินการตรวจสอบหาตัวผู้เช่าบ้านหลังนี้ต่อไป

พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เผยว่าตำรวจชุดสืบสวนได้เฝ้าดูติดตามพฤติการณ์ของผู้ต้องสงสัยรายนี้มานานแล้วคือนายวีระยุทธ พรรณรังสี หรือ”บ่าว เคหะ”อายุ 32ปี ซึ่งมีพฤติการณ์เรื่องยาเสพติดและอาวุธปืนเคยติดคุกมาแล้วในคดีดังกล่าว โดยพบว่านายวีระยุทธหรือบ่าว เคหะ หลังจากพ้นโทษมาแล้วนายวีระยุทธ์หรือบ่าว เคหะ ได้มาเช่าบ้านหลังดังกล่าวมานาน2ปีเพื่อผลิตลำกล้องอาวุธปืนที่ดัดแปลงใส่กับปาแบงค์กันเพื่อส่งขายให้กับลูกค้าทางออนไลน์ ซึ่งมีลูกค้าสั่งซื้อลำกล้องอาวุธปืนจากนายวีระยุทธ์จำนวนมากมานานแล้ว

ประวัตินายวีระยุทธ์หรือบ่าว เคหะ มีความสนใจในเรื่องผลิตอาวุธปืนจึงเรียนรู้ทางออนไลน์จนมีความรู้เชี่ยวชาญในการผลิตลำกล้องอาวุธปืนจนสามารถผลิตขายอย่างเป็นลำเป็นสัน ซึ่งทางนายวีระยุทธ์หรือบ่าว เคหะจะใช้เวลาผลิตลำกล้องอาวุธปืนทั้งวันทั้งคืนจนทำให้ค่าไฟของบ้านเช่าสูงถึงเดือนละ3-4000กว่าบาทุกเดือน

จนหลังจากเกิดเหตุกราดยิงที่ห้างพารากอน ทำให้นายวีระยุทธ์หรือบ่าว เคหะ ไหวตัวทันชิงหลบหนีไปได้เสียก่อนที่ตำรวจจะเข้าตรวจค้น ซึ่งทางตำรวจจะได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับนายวีระยุทธ์หรือบ่าว เคหะและจะได้ขยายผลเครือข่ายผลิตลำกล้องอาวุธปืนแก๊งนี้ต่อไป

#Ringsideการเมือง


Sharing
spot_img

Latest articles

Related articles

spot_img