“เต้ย ภูมิใจไทย” สะท้อนเสียง “ประชาชน” หนุนนโยบายเงินดิจิทัล ต้องทำ ห้ามล้ม ห้ามถอย “กลุ่มเปราะบาง” ต้องไม่ถูกละเลย
8 พฤศจิกายน 2566 ที่บ้านหนองตาด ต.ตลาดไทร อ. ชุมพวง จังหวัด นครราชสีมา นายพลพีร์ สุวรรณฉวี สส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย ได้ลงพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาแหล่งน้ำขาดแคลน ระหว่างนั้น ได้ตอบคำถามความคิดเห็นกับสื่อมวลชน เรื่องของนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ตนเป็นผู้แทนประชาชน เรื่องนี้ มีการพูดถึงในกลุ่มของชาวบ้านอย่างกว้างขวาง ถึงความกังวลว่าจะได้รับหรือไม่ ตนขอเป็นกระบอกเสียงแทนชาวบ้านในพื้นที่ตน ว่าประชาชนชอบนโยบายนี้ อยากให้เดินหน้าโดยเร็ว และไม่อยากให้ไปตัดสิทธิ์กลุ่มไหนไป เพียงเพราะมีที่นาที่พอจะมีมูลค่า แต่จริง ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น หรือการมีเงินในบัญชี ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ได้มากอะไรเลย ที่สุดแล้ว พวกเขา ก็ต้องการเงินช่วยเหลืออยู่ดี ชาวบ้านอยากให้ทำตามสัญญา ให้ฟังชาวบ้าน ให้ครบทุกกลุ่ม เช่น กลุ่มเปราะบาง ชาวบ้านที่อยู่ห่างไกล ต้องฟังให้หมด ไม่ใช่เฉพาะเพียงคนที่รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเท่านั้น
“ชาวบ้าน เขาบอกผมว่า เงินจำนวนนี้ มันมีคุณค่าอย่างมาก ถึงแม้บางคนเงินหมื่น อาจไม่มาก แต่กับพวกเขา มีคุณค่ามหาศาล เท่าที่ผมฟังมา เงินจำนวนนี้ มันจะทำให้เศรษฐกิจชุมชนมีลมหายใจได้ เติบโตได้ หรืออย่างแรงงานที่กลับมาจากประเทศที่มีสงคราม ครอบครัวสามารถรวมเงินกันเพื่อสร้างอาชีพ สร้างงานใหม่ ได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง หรือแม้แต่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภับแล้ง น้ำท่วม เงินจำนวนนี้จะสามารถต่อลมหายใจ”
นายพลพีร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในเมื่อตนเป็น สส. เป็นผู้แทนประชาชน เสียงของชาวบ้านจึงดังเป็นพิเศษ เข้าใจความเป็นห่วงของภาคส่วนอื่นๆ แต่ถ้าถามตน นโยบายนี้จะได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกระดับอย่างแท้จริง
“อย่าลืมว่าเงินก้อนนี้ มันไม่ได้จ่ายแล้ว จบหายไปเลย เพราะความจริงคือมันมีระบบภาษี เงินที่จ่ายออกไป เดี๋ยวก็กลับคืนมาสู่ส่วนกลาง เข้ารัฐ แล้วมันก็หมุนแบบนี้ไปเรื่อยๆ นอกจากจะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโต สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ นโยบายนี้คือความหวังของชาวบ้าน”
