นายอำนาจ วิลาวัลย์ อดีต ส.ส.พรรคภูมิใจไทย จังหวัดปราจีนบุรี เปิดเผยถึงภาพรวมเศรษฐกิจของจังหวัดปราจีนบุรี ว่า ปีที่ผ่านมาพบว่าเศรษฐกิจภาพรวมของปราจีนบุรียังไม่ดีเท่าที่ควร เนื่องจากภาคการผลิตสินค้าทั้งเกษตรและอุตสาหกรรมหลายด้านประสบปัญหาราคาสินค้าตกต่ำลง ส่งผลให้ภาพรวมของการค้าการขายไม่ดีตามด้วย เพราะเป็นธุรกิจต่อเนื่อง เมื่อราคาสินค้าเกษตรตกต่ำลง การซื้อขายก็ลดลงตามไปด้วย
ปัจจุบันภาพรวมของจังหวัดพบว่า เกษตรกรผู้ปลูกข้าวประสบปัญหาพอสมควร เพราะราคาข้าวตกลงมามากเหลือจากเดิมข้าวจะอยู่ที่ตันละประมาณ 10,000-12,000 บาท แต่ปัจจุบันราคข้าวตันล่ะประมาณ 6,800 บาทเท่านั้น ถือว่าน้อยมาก เพราะต้นทุนการปลูกข้าวเพิ่มขึ้นประมาณไร่ละ 6, 000 บาท หากราคายังเป็นเช่นนี้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวไม่น่าจะดีขึ้น
ในขณะเดียวกัน การทำประมงก็ประสบปัญหา การเลี้ยงปลาในบ่อ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของคนในพื้นที่ ในปีนี้ราคาปลาบ่อตกลงมาก เหลือกิโลกรัมละ 10 บาท ประกอบกับกุ้งราคาตกลงเช่นกัน แต่ก็ยังถือว่าไม่ขาดทุนมากนัก เพราะราคากุ้งเริ่มขยับขึ้น ทั้งนี้ ตนได้ส่งเสริมให้มีการแปรรูปสินค้า เพื่อเพิ่มมูลคค่าสินค้าให้มากขึ้น โดยเฉพาะมีการแนะนำให้แปรรูปปลามากกว่าขายปลาสด เพราะราคาปลาตากแห้งหรือปลาแดดเดียว จะได้ราคาดีกว่าปลาสดมาก ซึ่งก็ได้ในระดับหนึ่งเพราะต้องหาตลาดระบายสินค้าให้มากขึ้น เพราะหากแปรรูปมาแล้วไม่มีตลาดขายก็ไม่ต่างจากที่ผ่านมา โดยทั้งนี้ภาพรวมก็ถือว่าปัญหาใหญ่ของเศรษฐกิจการค้าขายภายในจังหวัดยังไม่ดีเท่าที่ควร
นายอำนาจ กล่าวต่อว่า ในขณะที่การทำนาและการประมงประสบปัญหาด้านราคาที่ตกต่ำลง แต่ในทางกลับกันพบว่า ผลไม้กลับมีราคาที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ทุเรียน กะท้อน ที่ในปีนี้ราคาดีมาก แม้แต่มังคุดอาจจะตกลงมาบ้างแต่ก็ยังถือว่าราคาดีพอสมคสวร ที่เป็นเช่นนี้คือสวนผลไม้เริ่มลดลง เพราะชาวสวนขายที่ดินไปเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ผลไม้ที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ทำให้ได้ราคาดี นอกจากนี้ ด้วยความที่เป็นจังหวัดที่อยู่ในเขตส่งเสริมการลงทุนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี จึงมีนายทุนเข้ามากว้านซื้อที่ดิน ทำให้ที่ดินราคาพุ่งมาก ราคาปรับสูงขึ้นกว่าหหลายปีที่ผ่านมา ชาวบ้าน ชาวสวนจึงขายที่ดินมากกว่าจะมาทำสวนเหมือนบรรพบุรุษ
นอกจากนี้ ในกลุ่มภาคอุตสาหกรรมก็ไม่ค่อยดี เพระบางโรงงานเริ่มประสบปัญหาด้านการผลิตสินค้าค้าขายไม่ได้ ล่าสุดมีการลดคนงานลงบ้าง ปรับโอทีบ้าง ลดเวลาการทำงานลง ซึ่งก็ส่งผลผู้ใช้แรงงานมีรายได้ลดลงไปด้วย ที่เป็นเช่นนี้เพราะค้าขายในประเทศไม่ดี ส่งออกเราก็โดนเรื่องการกีดกันการค้า อยากให้รัฐบาลเร่งเปิดตลาดสินค้าเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้ผู้ประกอบการเหล่านี้อยู่ได้
“จากการลงพื้นที่พบว่า ประชาชนประสบปัญหาด้านความเป็นอยู่ ทั้งเศรษฐกิจและภาคสังคม จากในช่วงที่ผ่านมามาลงพื้นที่พบว่าประชาชนถามว่าเมื่อไหร่จะเลือกตั้ง เพราะเชื่อว่าหากเลือกตั้งแล้วเศรษฐกิจจะดีขึ้น” นายอำนาจกล่าวในที่สุด