นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยกับทีมข่าวริงไซด์นิวส์ ถึงภาพรวมเศรษฐกิจในภูมิภาคอีสาน ว่า อยากให้ธนาคารพานิชย์ปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการมากขึ้น เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนในระบบ เนื่องจากปัจจุบัน ธนาคารปล่อยกู้ยากมาก ทำให้ผู้ประกอบการจำนวนมากต้องปิดตัวลง ทั้งที่กำลังจะไปด้วยดี แต่ไม่มีเงินต่อยอด จากผลที่เกิดขึ้นทำให้กำลังซื้อของประชาชนหายไปจากระบบ ประกอบกับเงินเฟ้อ กับ เงินฝืด เกินขึ้นพร้อมกันจึงส่งผลในภาพรวมไม่ดีขึ้น
ส่วนภาพรวมทั้งจังหวัด ยังไม่ดีเท่าที่ควร แม้ว่า ราคาข้าวจะมีการปรับตัวสูงขึ้น แต่มีปริมาณข้าวในมือเกษตรกรจำนวนน้อย เพราะที่ผ่านมาเศรษฐกิจไม่ดีราคาข้าวตกต่ำมากหลายปีส่งผลให้ต้นทุนมันร่อยหรอไป ประกอบกับการลงทุนใหม่ของเกษตรกรในหลายพื้นที่ไม่พร้อมมากนัก ในขณะเดียวกัน ต้นทุนในการทำการเกษตรมีการปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายมีทุกวัน การค้าขายก็ลดลง คนซื้อลดลง เพราะคนไม่มีเงินไปซื้อ ทั้งหมดนี้ภาพใหญ่ก็คือเศรษฐกิจใน ภาพรวมมันไม่ดีขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรบางคนต้องเป็นหนี้สินมากขึ้น
ที่เป็นเช่นนี้เพราะรายจ่ายมีเป็นจำนวนมาก รายรับลดลง เศรษฐกิจที่แย่เพราะภาพรวมทางด้านเศรษฐกิจของประเทศยังไม่ดีขึ้น นอกจากนี้นโยบายภาครัฐก็มีผลต่อการดำเนินธุรกิจพอสมควร เพราะบางแห่งต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น เนื่องมาจากนโยบายการจดทะเบียนแรงงาน ก็ส่งผลให้ต้นทุนของแรงงานเหล่านี้สูงขึ้น ก็มาลงที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี หรือ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมได้รับผลกระทบเพราะค่าแรงงานมีการปรับขึ้น ผลตกมากับผู้ประกอบการ
ที่เป็นเช่นนี้เพราะประชาชนหาเงินยากแต่สินค้ากลับมีการปรับราคาสูงขึ้น ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจพื้นฐาน ด้านรัฐบาลพยายามหามาตรการช่วยเหลือโดยการออกบัตรคนจน แต่ก็กลายเป็นว่าไปซ้ำเติมเศรษฐกิจมากขึ้น เพราะมีการกำหนดสินค้าไว้ให้ซื้อ รวมทั้งที่จะซื้อขายได้ก็กำหนดไว้ร้านค้าไว้ ทำให้เงินไม่กระจายในท้องที่ไปตกที่นายทุนหรือผู้ประกอบการรายใหญ่ แต่ธุรกิจรากหญ้าไม่ได้อะไรเลย เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัตรคนจน
“จากการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน พบว่า คำถามที่ประชาชนถามมากที่สุดคือ เมื่อไหร่จะมีการเลือกตั้ง เพระประชาชนเชื่อว่า การเลือกตั้งจะช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้น ประชาชนเริมมีกำลังใจว่าหลังการเลือกตั้งเศรษฐกิจจะดีขึ้น เขามีความหวังตรงนี้ ภาพเศรษฐกิจที่เป็นจะแก้ได้โดยการเลือกตั้งเท่านั้น”