จากกรณีที่ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดใจผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจสโมสร BURIRAM UNITED ในเรื่องของวงการฟุตบอลลีกอาชีพของไทย ระบุว่า “ฟุตบอลไทย เติบโต หรือหดตัว?”“แฟนบอล คือ คำตอบ” ในแวดวงผู้บริหารสโมสรฟุตบอลไทยในทุกลีก ตั้งแต่ T1 ถึง T4 ทุกคนมีคำถามอยู่ในใจ มีความห่วงใย และกังวลอยู่ในแววตา ว่า “ฟุตบอลไทย จะฝ่าวิกฤตแฟนบอลไม่เข้าสนาม ได้อย่างไร?”
นายเผือก อ่อนโคกสูง ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ในกรณีที่ไม่ได้เข้าไปชมฟุตบอลเป็นประจำอย่างเช่นที่ผ่านมาก็เพราะว่า ตอนนี้ยอมรับว่าเศรษฐกิจไม่ค่อยดีเหมือนเมื่อก่อน การไปชมฟุตบอลที่สนามในแต่ละนัดจะใช้งบประมาณต่ำกว่า 500-1,000 บาทต่อนัด เพราะทั้งค่าเข้า ค่าอาหาร ค่าซื้อสินค้าที่ระลึก ทั้งเสื้อ หมวก หรือของต่างๆ ก็ถือว่าเป็นภาพที่คุ้นตา เวลาตนไปสนามฟุตบอลหลังบอลจบก็จะต้องเข้าที่ช้อปของสโมสร เพื่อหาซื้อของที่ระลึก เป็นปกติวิสัยแฟนบอล เพราะเสื้อทีมในแต่ละปีจะมีอะไรที่ต่างกันออกไป
แต่ด้วยเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ทำให้เราต้องมาดูว่าในกระเป๋ามีตังค์เท่าไหร่ แม้อยากไปเชียร์ที่ขอบสนามแต่ก็ไม่สามารถทำได้เหมือนเก่าเพราะเศรษฐกิจฝืดเคืองมาก ค้าขายไม่ค่อยดี อยากให้เศรษฐกิจดีเหมือนเมื่อก่อน เราจะได้ไปให้กำลังใจทีมรักได้เหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้ก็ได้แต่ดูผ่านโทรทัศน์ที่บ้านไปก่อน
นายวิชัย กิจอำนาจไพศาล ประชาชนชาวบุรีรัมย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทุกครั้งที่ไปมีการแข่งขันฟุตบอลตนไปดูทุกนัดไม่เคยขาด แต่ตอนนี้ต้องทำหากินเลยไม่ค่อยได้ไปดูเหมือนเก่า จะไม่ไปทำงานก็ไม่ได้เพราะงานหายากมาก เลยต้องดูผ่านจอเอา บรรยากาศก็ต่างออกไป อยากให้นักฟุตบอลเข้าใจด้วยว่า แฟนบอลไม่ได้ทอดทิ้งแต่มันจำเป็นจริง ๆ
นายบัง นิยมปัญญานาม กล่าวว่า ก็เศรษฐกิจมันไม่ค่อยดีจะให้ไปสนามทุกนัดก็ยาก เมื่อก่อนตอนเศรษฐกิจดี ๆ ตนไปดูทุกนัด ติดขอบสนามเลย ของที่ระลึกมีทุกอย่าง แต่พอมาช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีก็ไม่สามารถทำได้แบบเก่า แต่ก็ยังรักฟุตบอลไทย พร้อมยอมรับว่าการดูผ่านจอกับไปดูที่สนามบรรยากาศมันต่างกัน
ขอบคุณภาพ : BURIRAM UNITED