นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกวุฒิสภา และกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความและรูปภาพผ่านเพจเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ระบุว่า
…เสือหลับหรือเสือตายไม่นานก็คงรู้!! พิชัยสงครามกำหนดวิธีหยั่งรู้แพ้ชนะไว้ในข้อแรก คือขุนพล ก๊กเพื่อไทยทักษิณนำทัพ ปปช ลุงชวนน้ามาร์ค ลุงบัญญัตินำทัพ
ส่วนก๊กพลังประชารัฐ ใครนำทัพ?ตอนนี้มีแต่ข่าว 3 มิตรนำทัพ ซุนวูกล่าวว่า ” ด้วยประการนี้ข้าก็สามารถหยั่งทราบแพ้ชนะแล้ว “ผลคำนวณจากดวงดาวของกระบี่เดียวดาย เพื่อไทยไม่ชนะถล่มทลายดังที่โวแต่จะได้ราว 200 พลังประชารัฐและพวก 200 ปชป. 100 บวกลบ ไม่มากนัก ตอนนี้กำลังคำนวณว่าใครจะเป็นประธานสภา ?…
นับว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจ เพราะคนอย่างไพศาลเองแม้จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพรรคเพื่อไทย ตรงข้ามกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่การออกมาโพสต์เช่นนี้น่าสนใจในฐานะที่ว่า มีฐานขอมูลมาจากไหน ? ด้วยไพศาลเป็นถึงผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระกลาโหม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ใน คสช.
ประกอบกับการเดินเกมหนักของกลุ่มสามมิตร ที่เดินหน้าทาบทามคนนั้นคนนี้เข้ามาร่วมงาน ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับพรรคพลังประชารัฐ ที่ว่ากันว่าเป็นเงาของแกนนำคสช.ที่จะมาเดินในเส่นทางการเมือง และเป็นกลุ่มเดียวที่เคลื่อนไหวได้โดยที่คสช.เปิดทางให้ ที่ผ่านมามีข่าวว่าคนนั้นคนนี้เข้ามาร่วมงาน ส.ส.คนนั้นจะไป คนนี้จะอยู่ กับกลุ่มประชารัฐ
แต่การวิเคราะห์ของไพศาลกลับเป็นการวิเคราะห์ที่ไม่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ไม่มีทางเกิดขึ้น เป็นการดูถูกพรรคการเมืองขนาดกลาง ทั้ง ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนา พรรคเหล่านี้ไปอยู่ตรงไหนในบทวิเคราะห์ของไพศาล เพราะต้องไม่ลืมว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาปี 2554 พรรคภูมิใจไทย ได้ 34 ที่นั่ง พรรคชาติไทยมี 19 ที่นั่ง พรรคชาติพัฒนามี 7 ที่นั่ง พรรคพลังชลมี 7 ที่นั่ง หากการวิเคราะห์ของไพศาลที่ออกมาคือพรรคการเมืองเหล่านี้ไม่มีส.ส.ในสภาเลยหรือ
เป็นการวิเคราะห์แบบไม่มีเหตุผลรองรับ แถมเป็นการดูถูกพรรคประชาธิปัติย์ด้วย เพราะหากพรรคประชาธิปัตย์ได้ส.ส.จำนวน 100 คน หมายความว่าพรรคประชาธิปัตย์มีจำนวนส.ส.เขตลดลงแล้วมาบวกกับระบบบัญชีรายชื่อจึงได้ 100 ที่นั่ง ซึ่งการวิเคราะห์ที่ออกมาเป็นการตบหน้าฉาดใหญ่ของไพศาลที่มีต่อประชาธิปัติย์เลยทีเดียว
ทั้งนี้ ในรัฐธรรมนูญปี 2560 จะมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 500 คน ประกอบด้วย ส.ส.แบบแบ่งเขต 350 คน และแบบบัญชีรายชื่อ 150 คน โดย กทม.และภาคกลางจะมี ส.ส.121 คน ภาคเหนือ 62 คน ภาคอีสาน 118 คน ภาคใต้ 49 คน
ในรายงานของหน่วยงานด้านการข่าวก่อนหน้านี้ วิเคราะห์ออกมาว่า “การเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทย จะได้ภาคเหนือ 40 อีสาน 70 ภาคกลาง ได้ 30-40 กทม.ได้ 10 รวมๆ ก็ได้ 160 ส่วนภาคใต้ก็ต้องรอกลุ่มวาดะห์ กับเครือข่าย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ซึ่งก็หวังยาก เพราะทหารประกบไว้แล้ว หากไปรวมกับพรรคอนาคตใหม่ของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับพรรคของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ได้ ก็ยังไม่น่าจะถึง 210” นี่คือรายงานของหน่วยงานความมั่นคงที่เอาใจผู้มีอำนาจ
แต่ในความเป็นจริงแล้วการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นยังไม่มีใครบอกได้เลยว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ บรรดากูรูทั้งหลายต่างฟันธงผลการเลือกตั้งออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า หากไม่มีการเตะสกัดพรรคเพื่อไทยยังคงครองความได้เปรียบในการเลือกตั้งในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคอีสานกับภาคเหนือ
การวิเคราะห์ของไพศาลที่ออกมาก็ไม่ต่างจากมโนคติล้วนๆ หาใช่วิเคราะห์บนหลักวิชาการหรือไม่ และเป็นการวิเคราะห์ที่ไม่เห็นหัวเพื่อน หรือพรรคการเมืองอื่นเลย จึงเป็นไปไม่ได้ผลการเลือกตั้งในมโนคติของไพศาลจะเกิดขึ้นจริง เป็นเพียง “ผลคำนวณจากดวงดาวของกระบี่เดียวดาย” ที่นับวันจะหาคนคบยากลงไปทุกที
วัฒนา อ่อนกำปัง ทีมข่าวริงไซด์การเมือง รายงาน