นายยงยศ แก้วเขียว นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยกำนันผู้ใหญ่บ้านในจังหวัดนครศรีธรรมราช หลายสิบคน รวมตัวเข้ายื่นหนังสือต่อ นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อร้องขอให้ส่งต่อข้อร้องเรียน และข้อเสนอไปยังกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. ให้ทบทวนการทวงหนี้กับลูกหนี้ กยศ. ซึ่งมีแนวโน้มว่า อาจเป็นการกระทำที่ขัดต่อ พ.ร.บ.ทวงหนี้ นอกจากนี้ กยศ. ได้ว่าจ้างให้บริษัทเอกชนเข้าทำการทวงหนี้กับลูกหนี้ กยศ. อย่างต่อเนื่อง มีการข่มขู่ยึดทรัพย์หากไม่ใช้หนี้ จนสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว เนื่องจากลูกหนี้บางรายจบมาแล้วไม่มีงานทำ จึงสะท้อนและร้องเรียนผ่านกำนันผู้ใหญ่บ้านเพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากพบว่า การทวงหนี้ดังกล่าวมีการอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ กยศ. ติดต่อกับลูกหนี้ในลักษณะข่มขู่ก่อให้เกิดความหวาดกลัว
ทั้งนี้ กำนันผู้ใหญ่บ้านทุกคนเห็นด้วยที่จะต้องชำระหนี้ แต่รัฐบาลและกองทุน กยศ. ควรทบทวนถึงลักษณะของการทวงสุ่มเสี่ยงต่อการผิด พรบ.ทวงหนี้ ประกอบกับควรคัดกรองลูกหนี้ที่อยู่ในสภาพที่มีขีดความสามารถในการชำระ เช่น มีงานทำหรือไม่ มีภาระทางครอบครัวขนาดไหน บางรายไม่มีงานทำ แต่ต้องมารับภาระดูแลครอบครัวที่ป่วยติดเตียงอย่างยากลำบาก หรือมีภาระด้านอื่น ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ค่อนข้างฝืดเคือง ยิ่งทำให้ลำบากมากขึ้นไปอีก
นายยงยศ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลควรมีนโยบายในการคัดกรองลูกหนี้ กยศ. และมีมาตรการรองรับช่วยเหลือ เช่นเดียวกับนโยบายในการโอบอุ้มคนรวย ๆ ยกตัวอย่างเช่นลูกหนี้เกษตรกรที่กู้หนี้ยืมสินจาก ธกส. ซึ่งได้รับการดูแลอย่างดี ไม่ใช่ให้เอกชนมาทวงหนี้มาข่มขู่กับลูกหนี้ กยศ. เช่นนี้ ซึ่งผู้กู้หนี้ กยศ.เหล่านี้ไม่มีเงินเรียน จึงจำเป็นต้องพึ่งพารัฐบาล และก่อนจะมาเป็นลูกหนี้ กยศ. ซึ่งอย่าให้ถึงขั้นยึดที่ดินทำกิน หรือยึดทรัพย์เลย
นอกจากนั้นทางกำนันผู้ใหญ่บ้าน ได้เสนอโครงการพักชำระหนี้กองทุน กยศ. ต่อรัฐบาล เพื่อพิจารณาและเป็นการช่วยเหลือลูกหนี้ ส่วนเรื่องข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับลูกหนี้ กยศ. กำนันผู้ใหญ่บ้านจะช่วยเหลือสนับสนุนต่อไป อย่างไรก็ตามในวันนี้ (3 ส.ค.) นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ติดภารกิจ จึงมีตัวแทนออกมารับหนังสือ และระบุว่าจะแจ้งให้ทางผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาล ก่อนกำนันผู้ใหญ่จะเดินทางกลับ