รศ.สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมาและอนาคตที่จะเกิดขึ้นผ่านทางรายการ “ริงไซด์การเมือง” ว่า ในเรื่องของการเมืองมีการเปลี่ยนแปลงตลอด ประชาชนต้องคิดให้ยาว หากคิดเร็วว่าเรื่องนี้-เรื่องนั้นต้องเสร็จในรัฐบาลนี้ ประชาชนอาจจะผิดหวังได้ เพราะประเทศไทยผ่านบทเรียนประชาธิปไตยมาหลายยุคหลายสมัย แต่ก็ต้องเดินหน้ากันต่อไป เราต้องใจเย็นเพราะหากในรุ่นเราไม่เห็นประชาธิปไตยที่เต็มใบก็อาจจะเห็นในรุ่นลูก-หลานเราก็ได้ เรื่องของประชาธิปไตยต้องใจเย็นจะใจร้อนไม่ได้
“เรื่องแบบนี้ต้องปล่อยให้มีการพัฒนาการในแต่ละรุ่น ซึ่งจะมีบทบาทที่ต่างกันไป บางอย่างเขียนกฏหมายออกมาดีมากแต่ในเวลาทำจริงมันไม่ง่ายอย่างที่ฝ่ายเขียนมโนภาพไว้ เพราะคนเขียนกฏหมายกับคนปฏิบัติมันต่างกัน ยกตัวอย่างคือเรื่องไพรมารีโหวต อย่างไรก็ตาม นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ปัจจุบันประชาชนมีการตื่นตัวทางการเมืองมากขึ้น อยากมาส่วนร่วมกับการเมืองมากขึ้น”
นักวิชาการผู้นี้ ยังย้ำว่า กติกาใหม่ถูกออกแบบมาให้พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน และคนที่เป็นนายกฯอยู่ตอนนี้ ก็จะได้เป็นนายกฯต่ออีกสมัย ต่อให้วิเคราะห์กันว่านายกฯใหม่ที่ได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.250 คน จะบริหารงานได้ยาก เพราะเชื่อว่าอย่างไรเสียอาจจะมี ส.ส.ย้ายมาสนับสนุนในภายหลัง ซึ่งเคยเกิดขึ้นสมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เหล่านี้เป็นเรื่องปกติ และพรรคการเมืองขนาดกลางหรือขนาดเล็ก ถ้าจะอยู่ร่วมกับฝ่ายผู้ชนะก็ไม่ใช่เรื่องผิด เนื่องจากเขาต้องการผลักดันนโนบายไปสู่การปฏิบัติ
รศ.สุขุม กล่าวด้วยว่า กรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. บอกว่า การเลือกตั้งมีแน่แต่หากตีกันไม่มีเลือกตั้ง อยากจะถามกลับไปว่า หากเขาตีกันจริงท่านจะลาออกหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาก็รักษาความสงบมาตลอด แต่ใกล้เลือกตั้ง มีการตีกันก็อาจจะทำให้หลายฝ่ายคิดได้ว่าทำไมปล่อยให้เกิดขึ้น หรือ คสช.ปล่อยให้เกิดขึ้น ทั้งนี้ หากไม่มีเลือกตั้งตามที่กล่าวไว้ คือต้นปี 62 จะมีคน “เสียคน” จำนวนมาก