ผศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ม.บูรพา กล่าวถึงกรณี นายพชร นริพทะพันธุ์ บุตรชาย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่แสดงความมั่นใจว่านโยบายของพรรคเพื่อไทย ซึ่งพัฒนามาจากแนวคิด “ทักษิโณมิกส์” จะประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ เนื่องจากมีพัฒนาการอย่างสม่ำเสมอว่า มีความน่าสนใจในปรากฏการณ์ที่พรรคเพื่อไทย ออกมาปลุกนโยบาย “ทักษิโณมิกส์2019” ซึ่งส่วนตัวมองว่าเพื่อไทยกำลังมาถึงทางแยกที่ต้องเลือก คือ
1. ชูอดีตนายกฯทักษิณ เพื่อรักษาฐานนิยมในคนเสื้อแดง แต่ระยาวพรรคเพื่อไทยก็จะถึงจุดจบเพราะไม่สามารถพัฒนาพรรคการเมืองเป็นสถาบันได้มากกว่านี้ ระยะยาวเพื่อไทยก็จะอ่อนแอลงเพราะไม่พัฒนานโยบายที่เป็นฐานของพรรค
2.ถ้าเสนอแนวทางการต่อสู้ผ่านนโยบายประชานิยม ข้ออ้างหลักการประชาธิปไตยในการต่อสู้ ความเป็นธรรมในสังคม ก็จะทำให้พรรคมีความชอบธรรมในการต่อสู้โดยต้องหลับตาข้างเดียวรักษาความสัมพันธ์กับทักษิณเพื่อดึงมวลชนเสื้อแดง กับ สร้างพรรคระยะยาว
ขณะเดียวกัน ผศ.ดร.โอฬาร ยังมองว่า จังหวะเวลาที่นายพชรนำเสนอแนวคิดดังกล่าว อาจเกิดขึ้นจากสถานการณ์เฉพาะหน้า เช่น ปัญหาภายในพรรคอย่างเรื่องกระแสปฏิรูปพรรคเพื่อไทยให้ก้าวข้ามอดีตนายกฯ หรือแม้กระทั่งการหยั่งกระแสมวลชนที่ยังชื่นชมทักษิณก็เป็นได้
ด้าน ผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ วิทยาลัยรัฐกิจ ม.รังสิต ระบุว่า ตอนนี้คนเริ่มเบื่อในการขยายฐานเสียงไปที่กลุ่มใหม่ๆ ตนเชื่อว่าเพื่อไทยต้องการตรึงฐานแฟนคลับโดยเฉพาะแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นอกจากนี้ยังอาจวิเคราะห์ได้ว่า วาระจริงๆ เพื่อไทยอาจต้องการยั่ว กกต. กับ คสช. เพราะหากถูกยุบพรรคจะหาเสียงได้ง่ายขึ้นมาก และไม่ต้องปวดหัวกับเรื่องหัวหน้าพรรคคนใหม่ แถมกระแสยังจะตีกลับไปที่การเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตรได้อีกด้วย