หน้าแรก news อดีต ส.ว.ชี้ ไม่มีพรรคไหนชนะเลือกตั้งถล่มทลาย ย้ำต้องไม่เกิน พ.ค.62 หากเลยกว่านั้นประชาชนไม่ยอมแน่

อดีต ส.ว.ชี้ ไม่มีพรรคไหนชนะเลือกตั้งถล่มทลาย ย้ำต้องไม่เกิน พ.ค.62 หากเลยกว่านั้นประชาชนไม่ยอมแน่

0
อดีต ส.ว.ชี้ ไม่มีพรรคไหนชนะเลือกตั้งถล่มทลาย ย้ำต้องไม่เกิน พ.ค.62 หากเลยกว่านั้นประชาชนไม่ยอมแน่
Sharing

นายดิเรก ถึงฝั่ง อดีต สมาชิกวุฒิสภา จังหวัดนนทบุรี เปิดเผยในรายการ “ริงไซด์การเมือง” ว่า กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ชุดใหม่ ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นภายในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 อาจจะไม่ใช่ตุ๊กตาก็ได้ แต่เป็นไปตามโรดแมปของรัฐบาล-คสช.ที่จะต้องมีการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2562 ตามกรอบของกฎหมาย เมื่อ กกต.เข้ามารับหน้าที่แล้วจำเป็นที่จะต้องทำ ทั้งนี้ การจะเลือกตั้งหรือไม่ ก็ยังมีอีกหนึ่งด่านคือคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ว่าจะยอมให้มีการจัดการเลือกตั้งหรือไม่ ดังนั้น ความไม่แน่นอนยังมีอยู่เพราะคสช.จะอ้างเรื่องความสงบ เพราะคสช.มักจะอ้างว่าถ้าไม่สงบไม่เลือกตั้ง ดังนั้นหาก คสช.มองว่าจะเกิดความวุ่นวายก็อาจจะไม่จัดให้มีการเลือกตั้งก็อาจจะเป็นได้

ทั้งนี้ หากเลื่อนการเลือกตั้งอีกครั้ง ก็อาจจะกระทบกับความรู้สึกของประชาชน เพราะประชาชนอยากเลือกตั้ง ทุกพรรคการเมืองก็จะจี้ไปที่คสช.ว่าทำไมไม่ทำตามคำพูด ผลเสียที่เกิดขึ้นกับคสช.ในที่สุด ซึ่งส่วนตัวยังเชื่อว่าการเลือกตั้งตามโรดแมปเดิม คือไม่เกินเดือนพฤษภาคม 2562 ดีที่สุด หากเกินเดือนนี้ไปอาจจะส่งผลลบต่อความเชื่อมั่นของ คสช.

นายดิเรก กล่าวต่อว่า ปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ได้เกิดจากภาคการเมือง แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นต้นเหตุเพราะไม่เป็นประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนให้รัฐบาลหน้าขยับตัวไม่ได้เลย เชื่อว่าหากมีการเลือกตั้งและไม่มีคสช.ก็อาจจะมีการขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือ มากสุดก็คือการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาเพราะคนที่หนุนคสช.ก็จะไม่ยอม ก็กลับไปสู่จุดเดิม ดังนั้นปัญหาที่จะเกิดขึ้นก็เกิดมาจากรัฐธรรมนูญนั่นเอง นอกจากนี้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังมีมาตรา 44 อยู่ในบทเฉพาะกาล ซึ่งหัวหน้าคสช.สามารถใช้อำนาจในการทำอะไรก็ได้ แม้แต่การยกเลิกรัฐธรรมนูญหรือไม่ยอมจัดให้มีการเลือกตั้งก็สามารถกระทำได้

ในส่วนของพรรคการเมืองนั้น ก็จะเกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบการเลือกตั้งคือระบบไพรมารี่โหวต ซึ่งยังไม่เหมาะกับการเมืองไทย คือ การเมืองไทยยังไม่พร้อม ดังนั้น หากมีการเลือกตั้งขึ้นมาแม้ว่าจะเป็นเดือนกุมภาพันธ์ก็อาจจะส่งผลต่อพรรคการเมืองเพราะเชื่อว่าด้วยระยะเวลาที่น้อย ไม่มีพรรคการเมืองไหนไหนทำไพรมารี่โหวตทัน นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกแบบการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม ก็ไม่มีทางที่พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งชนะแบบถล่มทลาย ซึ่งการจัดทำแบบนี้ก็เพราะต้องการสกัดการเข้มแข็งของพรรคการเมือง เพราะไม่มีทางที่พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งจะชนะการเลือกตั้งด้วยจำนวนส.ส.เป็นจำนวนมากเหมือนอดีตที่ผ่านมา

นายดิเรก กล่าวด้วยว่า กรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า พรรคเพื่อไทยไม่สามารถก้าวข้ามนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นการมองคนละมุมมากกว่า ซึ่งตนมองว่าที่ผ่านมา มีความพยายามต้องการสลายพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นพรรคที่ครองใจคนได้ ดังนั้น หากสลายพรรคเพื่อไทยได้ ประชาชนก็จะกระจายไปเลือกพรรคการเมืองอื่น การที่จะก้าวข้ามหรือไม่ก้าวข้ามไม่ใช่ประเด็น แต่เป็นประเด็นในการจัดวางตำแหน่งอดีตนายกรัฐมนตรีเช่นไร  อยู่ในจุดไหนในการเมืองไทย จุดสำคัญคือคนที่จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ว่าจะเป็นคนในตระกูลชินวัตรหรือไม่

ต่อคำถามที่ว่า หากพรรคเพื่อไทยก้าวขึ้นมาเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เกรงว่าจะเกิดภาพความขัดแย้งอีกหรือไม่ ซึ่งตนเชื่อว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นเพราะสังคมไทยบอบช้ำมานานแล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคการเมืองจะชูประเด็นในการหาเสียงว่า จะเลือกเผด็จการหรือประชาธิปไตย นอกจากนี้แล้วประชาชนเรียนรู้แล้วว่าการรัฐประหารไม่ช่วยให้ประเทศดีขึ้น ประเทศไทยผ่านการปฏิวัติรัฐประหารมากี่ครั้งแล้ว ประเทศไทยมีความเปลี่ยนแปลงมากแค่ไหน แม้ครั้งล่าสุดก็เชื่อว่าประชาชนมีคำตอบว่าได้อะไรจากการรัฐประหาร


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่