หน้าแรก news ต้องอ่าน ! เปิดข้อดี ข้อเสีย หาก “เพื่อไทย” ชู “สมชาย” นั่งหัวหน้าพรรค

ต้องอ่าน ! เปิดข้อดี ข้อเสีย หาก “เพื่อไทย” ชู “สมชาย” นั่งหัวหน้าพรรค

0
ต้องอ่าน ! เปิดข้อดี ข้อเสีย หาก “เพื่อไทย” ชู “สมชาย” นั่งหัวหน้าพรรค
Sharing

ผศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวถึงกระแสข่าวเรื่องเพื่อไทยจะตั้งนายสมชาย วงสวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรค ว่า ถ้าเป็นจริงตามที่ปรากฎในข่าว แสดงว่า

พรรคเพื่อไทย ข้ามเครือข่ายตระกูลชินวัตรไม่ได้ สะท้อนถึงอิทธิพลทางการเมืองของคุณทักษิณ ชินวัตร ยังมีอิทธิพลอยู่มากในพรรคเพื่อไทย และยังบงการการเมืองในพรรคเพื่อไทยได้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ข้อเสนอของจตุพร ให้พรรคเพื่อไทยก้าวข้าม ดร.ทักษิณ เป็นหมันในนัยนะนี้ทำให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้คล้อยตามหรือให้ความสำคัญ หรือ อยู่ใต้อิทธิพลของ นปช. หรือ คนเสื้อแดงทั้งหมด

กระทบต่อกลุ่ม นปช. โดยเฉพาะ กลุ่มนปช.ที่พยายามเสนอแนวทางการข้ามพ้นทักษิณแต่พรรคเพื่อไทยไม่เอาด้วย นปช. จะออกเป็น 2 แนว 1. นายณัฐวุฒิ ชูธงสนับสนุนทักษิณ 2. นายจตุพร ชูการก้าวทักษิณ เมื่อแกนนำหลักมีจุดยืนที่แตกต่างกันย่อมมีผลกระทบต่อเอกภาพหรือการขับเคลื่อน นปช. แต่เป็นข้อดีของคุณทักษิณที่จะสามารถใช้ยุทธศาสตร์แบ่งแยกแล้วควบคุมทั้ง พรรคเพื่อไทย และ นปช.

นักการเมืองเพื่อไทยกลุ่มคุณเยาวภา และนายสมชาย จะกลับมามีบทบาททางการเมืองภายในพรรคอีกครั้ง พรรคเพื่อไทยก็จะมีการแบ่งเป็นมุ้งการเมืองอีกหลายมุ้งที่จะต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง ในข้อนี้ ดร.ทักษิณก็จะใช้วิธีการแบ่งแยกแล้วควบคุม และแลกเปลี่ยนตำแหน่ง รมต. หรือ ตำแหน่งทางการเมือง แต่จะกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคเพื่อไทยที่สุดท้ายก็กลับมาเป็นพรรคการเมืองเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของแก๊งก๊วนทางการเมือง และจะส่งผลกระทบโดยเฉพาะกลุ่มหรือนักการเมืองสายประชาธิปไตย จะตอบคำถามสังคมอย่างไรถ้าพรรคเพื่อไทยกลับมาอยู่ในบริบทแบบเดิม

พรรคเพื่อไทยคงประเมินว่าประชาชนยังนิยมในตัวคุณทักษิณอยู่มาก การเสนอ นายสมชาย ก็ถือว่าเป็นคนในครอบครัว ดร.ทักษิณอาจได้รับการสนับสนุนจากประชาชน ทั้งนี้นายสมชายเองก็เคยเป็นนายกรัฐมนตรี บุคลิกภาพก็สุขุม วัยวุฒิ คุณวุฒิ ก็มีความเหมาะสม

ผศ.ดร.โอฬาร กล่าวต่อว่า บริบทการเมืองนอกพรรค การเมืองไทยยังอยู่ในเกมการต่อสู้แบบเดิมภายใต้อิทธิพลของ ดร.ทักษิณฝ่ายหนึ่ง กับ คสช. ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งหลัก หลังจากนี้เราจะเห็นการขยับ ปะทะ กันอย่างหนักขึ้นรถหว่าง คสช. และเครือข่ายทักษิณในเพื่อไทย ในการพัฒนาพรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันการเมืองจึงเสียโอกาส เพราะต้องเดินเกมการเมืองภายใต้การบงการของ ดร.ทักษิณ

ในส่วนต่อมาพรรคขนาดกลางจะมีความได้เปรียบมากขึ้นในการกำหนดทิศทางทางการเมืองหรือวางจังหวะก้าวทางการเมืองเพราะจะปล่อยให้คู่ขัดแย้งหลักทำสงครามกันให้ถึงที่สุด

 


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่