นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทยกล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน ประธานกลุ่มรักแผ่นดินบ้านเกิด อดีตแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กรณีเข้าร้องเรียนคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นครราชสีมา ให้ดำเนินการยุบพรรคภูมิใจไทย ว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน คาดว่าสามารถยื่นฟ้องได้ภายในสัปดาห์หน้า โดยเรื่องนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูลหัวหน้าพรรค ได้รับทราบเรื่องและให้เร่งดำเนินการฟ้องคดีเนื่องจากทำให้พรรคเสียหาย เป็นการใส่ร้ายป้ายสีและแจ้งความเท็จ ซึ่งแน่นอนว่าจะฟ้องนายสุภรณ์และผู้ที่อ้างว่าได้รับเงินที่มาเป็นพยานให้กับนายสุภรณ์จำนวนหลาย 10 คน โดยต้องติดตามว่าในเมื่อเราไม่ได้จ่ายเงิน พยานทั้งหลายที่อ้างว่าได้รับเงินก็ถือเป็นพยานเท็จ ทั้งนี้ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 31 ระบุ ห้ามมิให้ผู้ใดเรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากพรรคการเมืองหรือจากผู้ใดเพื่อสมัครเข้าเป็นสมาชิก ดังนั้น คนที่อ้างว่าจะมาเป็นพยานให้นายสุภรณ์ ถือเป็นบุคคลที่มีความผิดสำเร็จแล้ว ส่วนบุคคลเหล่านั้นโดนล่อลวงมาหรือไม่ ต้องพิจารณากันเป็นรายบุคคล และกกต.คงต้องดำเนินการเอาผิดบุคคลเหล่านี้ด้วย
นายพรชัย อำนวยทรัพย์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) นครราชสีมา อ.ครบุรี เขต 2 ซึ่งถูกนายนายสุภรณ์ กล่าวหา เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานะตนเป็นเพียงตัวเลือกที่ต้องทำไพรมารีโหวตหรือผ่านกระบวนการสรรหาผู้สมัคร สส.เขต เนื่องจากเขตเลือกตั้งนี้ มีอดีต สส.เขต ได้ประกาศลงสมัครแล้ว หากได้รับความเมตตาจากกรรมการบริหารพรรค ภท. ให้เป็นผู้สมัคร สส.เขต ก็จะนำพยานหลักฐาน ซึ่งเป็นภาพนิ่งและคลิปที่เป็นพฤติการณ์หวังผลการเลือกตั้งของนายสุภรณ์ โดยเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันฟุตซอล ทั้งจัดแข่งขันและมอบถ้วยรางวัลรายหลายการ รวมทั้งป้ายไวนิล ระบุข้อความ “รักและคิดถึงตลอดเวลา ขอกลับมาทดแทนแผ่นดินบ้านเกิด” โดยรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดยื่นต่อ กกต.จ.นครราชสีมา ให้ดำเนินการลงโทษเช่นกัน ซึ่งอายุความการร้องเรียนไม่ได้กำหนดเงื่อนเวลา เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ตนได้รับฉันทานุมัติเป็นผู้สมัคร สส. ก็จะร้องทันทีและแจ้งความกล่าวโทษนายสุภรณ์ ที่หมิ่นประมาทให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียงด้วย
ขณะที่ประเด็นปัญหา อสม. เก็บบัตรประจำตัวประชาชนนั้น นางทองย้อย เชิดครบุรี ประธาน อสม.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) บ้านใหญ่ อ.ครบุรี ยืนยันว่า เป็นข้อมูลคลาดเคลื่อน ข้อเท็จจริงชาวบ้านได้รู้จักมักคุ้น ส.อบจ.พรชัย มาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะ อสม. เมื่อมีคนในตำบลเสียชีวิต หากเป็นผู้ยากไร้ ก็จะไปขอรับบริจาคหีบศพเป็นประจำ ก่อนหน้านี้ ส.อบจ.พรชัย ได้มาพบปะ อสม. บอกเล่าต้องการลงสมัคร สส.เขต เพื่อเป็นปากเป็นเสียงให้กับชาวบ้านและสอบถามชอบพรรคไหนที่สุด คำตอบส่วนใหญ่อยากให้ลงสมัครพรรค ภท. ซึ่งติดขัดต้องมีชาวบ้านลงชื่อสนับสนุน อสม.และกลุ่มแม่บ้านที่รักชอบพอ ส.อบจ.พรชัย ได้พากันตระเวนใช้กล้องโทรศัพท์มือถือถ่ายบัตร และให้ลงลายมือสนับสนุน แต่จู่ๆ ก็มาเป็นข่าวทางลบ ทำให้พวกเราเสียใจมาก ขอให้ กกต. พิจารณาให้ความเป็นธรรมด้วย
ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก มติชนออนไลน์
