นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวในงานสัมมนาสื่อมวลชน ที่รัฐสภา ว่า ในการทำงานของสื่อมวลชนมีบทบาทหน้าที่เป็นสื่อกลางในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารไปยังประชาชนให้ได้รับข่าวสารตามข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และมีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของภาครัฐ รวมทั้งรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ซึ่งภารกิจสำคัญของสื่อมวลชน
ทั้งนี้ ในรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 นอกจากจะบัญญัติเรื่องการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพสื่อในการเสนอข้อมูลข่าวสารแล้ว ยังบัญญัติไม่ให้สื่อถูกแทรกแซงจากภายนอก โดยเฉพาะจากอำนาจทุน เพื่อให้สื่อมวลชนมีความเป็นอิสระ อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่แนวทางที่ดีก้าวผ่านความขัดแย้ง
นายสุรชัย กล่าวด้วยว่า สำหรับสื่อมวลชนนั้น มีบทบาทสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไปสู่วาระสำคัญของประเทศทั้ง 3 ประการ ได้ โดยทำหน้าที่เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเสริมสร้างความร่วมมือกันเพื่อให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าได้โดยเฉพาะการเสริมสร้างด้านเศรษฐกิจตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ที่จะนำพาประเทศไปสู่เป้าหมาย มีความสงบสุข ปรองดอง สร้างความเป็นธรรม แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ซึ่งจะทำให้สังคมไทยมีความสุข ประชาชนมีคุณภาพ
ด้านนายสมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.จะออกระเบียบการใช้สื่อโซเชี่ยลมีเดีย ในช่วงการเลือกตั้ง ว่า
เรื่องดังกล่าวคงต้องรอความชัดเจนจาก กกต.ก่อนว่าจะมีการระเบียบหรือกฎหมายออกมาอย่างไร เพราะวันนี้ยังไม่มีความชัดเจนก็จะเป็นการใช้พรบ.คอมพิวเตอร์เข้ามาเป็นตัวกำหนด แต่เชื่อว่าทางกกต.จะมีมาตรการออกมาเกี่ยวกับระบบการใช้สื่อโซเชี่ยลของพรรคการเมืองอย่างแน่นอน เพื่อควบคุมเรื่องค่าใช้จ่ายในการหาเสียง
นายสมชาย กล่าวต่อว่า กรณีที่มีการที่มีคนไปจัดเก็บสำเนาบัตรประชาชนนั้น ในข้อกฏหมายยังไม่มีความผิดเพราะการเลือกตั้งยังไม่มีกฏหมายบังคับ กรณีดังกล่าวต้องขึ้นอยู่กับการมองของ กกต.ว่าจะมองกรณีดังกล่าวอย่างไรแต่หากยังไม่มีกฏหมายรองรับก็ไม่น่าจะมีความผิด
ส่วนการไปแนะนำตัวของกลุ่มการเมือง ต้องดูที่เจตนาแต่ เชื่อว่าทุกพรรคการเมืองก็มีการออกไปพบปะกับประชาชนอยู่แล้ว ดังนั้นไม่น่าจะมีการได้เปรียบเสียเปรียบกันอย่างไร