นายสติธร ธนานิธิโชติ นักวิชาการผู้ชำนาญการ สำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า เปิดเผยถึงกรณีกรณีการจัดทำโพลของซูเปอร์โพลว่า หลักการของโพล เป็นการทำวิจัยเชิงสถิติ ซึ่งในการทำโพลก็คือกลุ่มตัวอย่าง โดยในการทำโพลที่ออกมาคาดว่าอาจจะเป็นสอบถามไปที่ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น ซึ่งในขณะนี้ผู้นำท้องถิ่นกำลังมีความสุขกับการอยู่ในตำแหน่งเพราะผู้นำรัฐบาลมีการใช้มาตรา 44 ให้รักษาการในตำแหน่งจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง ดังนั้นผู้นำท้องถิ่นในขณะนี้ก็มีความสุขอยู่ในตำแหน่ง ก็ไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง เพราะหากมีการเลือกตั้งก็จะต้องออกจากตำแหน่งไป ผลการสำรวจที่ออกมาก็ไม่ได้สะท้อนความต้องการที่แท้จริง
อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าในปัจจุบันคนที่อยากเลือกตั้งมีมากกว่าคนไม่อยากเลือกตั้ง โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ ได้ว่า 1.กลุ่มที่อยากเลือกตั้งและไม่ได้เห็นด้วยกับการรัฐประการตั้งแต่ปีแรก 2.กลุ่มที่พอใจกับทหารและไม่อยากเลือกตั้งเลย และ 3.กลุ่มอะไรก็ได้ แต่ทว่ากลุ่มสุดท้ายนี้ เมื่อเวลาผ่านมามานานก็เริ่มเบื่อกับภาวะที่เป็นอยู่ และอยากให้มีการเลือกตั้งเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพราะเขาเชื่อว่าหากเลือกตั้งแล้วเศรษฐกิจจะดีขึ้น
“โพลที่ออกมาจะเป็นตัวชี้วัดได้หรือไม่ก็ในระดับหนึ่งเท่านั้น ยังไม่ถือว่าเป็นความคิดเห็นของคนทั้งประเทศ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการทำโพล และระเบียบวิธีวิจัย รวมถึงการตั้งคำถาม จะเอามาเป็นดัชนีชี้วัดที่แน่นอนไม่ได้” นายสติธร กล่าวในที่สุด