ภายหลังมีประกาศคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ที่ 13/2561 เรื่อง การดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (เพิ่มเติม) ที่คลายล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้บางส่วน โดยหลังจากนี้ พรรคการเมืองต่างๆ จะต้องมีการพิจารณาเรื่องข้อบังคับ ประกาศอุดมการณ์และนโยบายพรรค เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคก่อนที่จะจัดประชุมใหญ่ต่อไป
ทั้งนี้ กำหนดการประชุมกรรมการบริหารพรรค และกำหนดการประชุมใหญ่ของพรรคการเมืองต่างๆ เบื้องต้นมีดังนี้
17 ก.ย. ประชาธิปัตย์ ประชุม กก.บห. เพื่อเตรียมการแก้ไขข้อบังคับพรรรค และเลือกหัวหน้าพรรครูปแบบใหม่
20 ก.ย. เพื่อไทย ประชุมรักษาการ กก.บห. เพื่อเตรียมการประชุมใหญ่แก้ไขข้อบังคับพรรค และเลือก กก.บห. ชุดใหม่
24 ก.ย. ภูมิใจไทย ประชุม กก.บห. เพื่อเตรียมการแก้ไขข้อบังคับพรรรค
26 ก.ย. ประชาธิปัตย์ ประชุมใหญ่
28 ก.ย. ทุกพรรค ประชุมร่วมกับ กกต. และรัฐบาล คสช.
29 ก.ย. พลังประชารัฐ ประชุมคณะผู้ก่อตั้งพรรค เพื่อเลือก กก.บห.
ปลาย ก.ย.-ต้น ต.ค. ชาติพัฒนา ประชุมใหญ่
1 ต.ค. อนาคตใหม่ เปิดตัวพรรคอย่างเป็นทางการ
2 ต.ค. พรรคภูมิใจไทย ประชุมใหญ่
5 ต.ค. ชาติไทยพัฒนา ประชุมใหญ่
ทางด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. กล่าวถึงกรณีคำสั่งคสช. ที่ 13/2561 ให้พรรคการเมืองสามารถใช้โซเชียลมีเดียในการหาสมาชิกพรรคได้ ว่า โดยหลักเรื่องของการหาเสียง กกต.จะเข้าไปควบคุมดูแลเมื่อมีพ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง แต่ขณะนี้เมื่อมีคำสั่งคสช.ที่ 13/2561 เกี่ยวกับการปฏิบัติของพรรคการเมืองทางสำนักงานฯก็กำลังเร่งศึกษาว่ากรณีดังกล่าวควรมีขอบเขตแค่ไหนเพียงไร เพราะก็มีการสอบถามกันเข้ามามาก เช่น จะหาสมาชิกสามารถประกาศนโยบายเพื่อเชิญชวนได้หรือไม่ และการประกาศนโยบายนั้นจะถือเป็นการหาเสียงหรือเป็นเพียงการชักชวน ซึ่งก็คงต้องดูเป็นกรณีไป
รวมทั้งขณะนี้ก็ยังไม่มีการประสานจากคสช.ว่าจะให้กกต. ออกหลักเกณฑ์ลักษณะต้องห้ามของการประชาสัมพันธ์ หรือการติดต่อสื่อสารที่จะมีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตามที่มีการระบุในคำสั่งคสช.ที่ 13/2561 แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามในระหว่างนี้ทางสำนักงานก็จะได้มีการรวบรวมความคิดเห็นต่าง ๆของพรรคการเมืองต่อการปฏิบัติตามคำสั่งคสช.ที่ออกมา และถ้าเรื่องใดที่อยู่ในอำนาจของกกต.ก็จะได้เสนอให้ที่ประชุมกกต.พิจารณา และถ้าเรื่องใดเป็นอำนาจของคสช.ก็จะได้เสนอให้คสช.พิจารณาต่อไป
