นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ หนึ่งในแคนดิเดทตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวขณะร่วมประชุมใหญ่วิสามัญของพรรค ว่า วันนี้ ตนเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์การประชุมเท่านั้น เพราะพ้นจากความเป็นสมาชิกพรรคจากการลาไปอุปสมบท
อย่างไรก็ตาม หลังจากเดินสายพูดคุยกับสมาชิกพรรค ทำให้ตนมั่นใจในระดับหนึ่งว่าสมาชิกส่วนใหญ่อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในพรรค ทั้งนี้ ตนไม่ได้ต้องการจะวิพากษ์วิจารณ์หัวหน้าพรรคคนปัจจุบันแต่อย่างใด เพียงแต่สะท้อนมุมมองของหลายคน ที่มองว่านายอภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้าพรรคมา 13 ปี และวันนี้เขาเหล่านั้น อยากเห็นสิ่งใหม่ เกิดขึ้นในพรรคประชาธิปัตย์
ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อีกหนึ่งคนดิเดทหัวหน้าพรรค กล่าวว่า ตนหารือกับนายอภิสิทธิ์ แบบพี่น้อง พูดถึงอนาคตของประเทศและพรรค รวมทั้งการเลือกตั้งที่จะมาถึงด้วยความห่วงใย พร้อมสอบถามแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับกฎกติกาของระบบไพรมารีการเลือกหัวหน้าพรรค โดยเห็นพ้องว่า กรรมการไพรมารีที่มาจากตัวแทนผู้สมัครจะเป็นผู้กำหนดกฎกติกาต่างๆ เหมือนกกต. โดยจะมีการหารือร่วม 3 ฝ่ายคือตน นายอภิสิทธิ์ และนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก เพื่อดูกติกาเรื่องวันแมนวันโหวต เปิดกว้างให้สมาชิกพรรคที่มาลงทะเบียนกับพรรคก่อนเดือนเม.ย.และหลังเดือนเม.ย. 2561 เกือบ 3 ล้านคนมีสิทธิลงคะแนนหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค โดยใช้วิธีนับทุกคะแนนหรือแบบวันแมนวันโหวต
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ต้องให้ผู้สมัครชิงหัวหน้าพรรคต้องดีเบตแสดงวิสัยทัศน์ให้สมาชิกพิจารณาตัดสินใจ และให้เสนอชื่อผู้ชนะการหยั่งเสียงเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ลงมติเลือก ถือเป็นสัญญาสุภาพบุรุษผู้แพ้จะต้องถอนตัว ซึ่งประเด็นนี้นายอภิสิทธิ์ มีท่าทีเห็นด้วย เช่นเดียวกับ นพ.วรงค์เห็นด้วยกับแนวทางนี้
สำหรับบรรยากาศการประชุมที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นไปอย่างคึกคัก สมาชิกพรรคได้พูดคุยเรื่องการเลือกหัวหน้าพรรคอย่างกว้างขวาง