นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป กล่าวถึงการประกาศใช้ พ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ว่า เป็นไปตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้มีกรอบการบริหารประเทศขึ้นมา เช่นเดียวกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่มีกรอบ 5 ปี แต่แผนนี้นักการเมืองไม่ค่อยสนใจ เลยคิดกันว่าควรมียุทธศาสตร์ชาติขึ้นเพื่อให้มีผลผูกพันทางกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ถ้าใช้ไปแล้วรัฐบาลเห็นว่ามันไม่ดี ก็สามารถแก้กฎหมายได้ ซึ่งขึ้นอยู่ที่เสียงของที่ประชุมรัฐสภา ทั้งนี้ ตนเห็นว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะเป็นเหมือนกฎหมายฉบับหนึ่งเท่านั้น
ส่วนข้อกังวลว่าต้องอาศัยเสียง ส.ว.มาร่วมแก้ด้วยนั้น นายไพบูลย์ย้ำว่า ถ้ามั่นใจว่าการแก้ไขเป็นสิ่งที่ดี อยู่ในเหตุในผล ไม่แก้ตามอำเภอใจ แล้วจะกลัวอะไร หากทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันก็ย่อมแก้ไขได้ ไม่มีปัญหาอะไร
“การแก้ไขต้องมีเหตุผลในการอธิบาย ไม่ใช่ว่าจะแก้เพื่อดิสเครดิต คสช.เฉยๆ แบบนี้ก็แก้ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม อย่าเพิ่งวิตกไป เพราะการแก้ไขอาจไม่ต้องใช้เสียง ส.ว.เลยก็ได้ ถ้ารวมเสียง ส.ส.ได้มากกว่า 376 เสียง”
นายไพบูลย์ ยังกล่าวถึงข้อโจมตีเรื่องเงื่อนไขเวลา 20 ปีซึ่งอาจนานเกินไปว่า คนพูดก็็พูดไป ถามว่าถ้ากำหนดสั้นไป เดี๋ยวก็โดนต่อว่า ว่าเป็นแผนระยะสั้นอีก หลายประเทศก็มียุทธศาสตร์ยาวนานกั้นทั้งนั้น เช่น มาเลเซีย หรือ จีน ส่วนเรื่องการไม่มีส่วนร่วมจากประชาชนนั้น ใครก็อ้างได้ ตนเกรงว่าอาจเป็นเรื่องไม่ถูกใจตัวเองก็เท่านั้น เลยอ้างว่าประชาชนไม่มีส่วนร่วม
“พรรคประชาชนปฏิรูป ไม่เห็นว่าแผนยุทธศาสตร์ชาติจะเป็นอุปสรรค ผมเห็นว่ามันดี มันเป็นกรอบที่ทำได้ หากเห็นว่าเป็นปัญหาก็พูดคุยกันด้วยเหตุ ด้วยผล ผมว่าไม่มีใครอยากจะสร้างแผนยุทธศาสตร์มาให้ชาติมีปัญหาหรอก” นายไพบูลย์กล่าว