นายนพพร ขุนค้า อาจารย์สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม รวมถึง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯด้านเศรษฐกิจ ออกมาพูดสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ดำรงนายกฯต่ออีกสมัยว่า ความมั่นใจนั้นมาจากเสียงสนับสนุนที่มีอยู่แล้ว คือ ส.ว.250 คน ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าจะไม่มีใครแตกแถวเลย นี่คือความได้เปรียบ รวมถึงความมั่นใจว่าจะรวบรวมเสียง ส.ส.ได้ อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาคะแนนนิยมที่แท้จริงของ พล.อ.ประยุทธ์ ในเรื่องผลงานต่างๆ ที่ผ่านมาด้วย ซึ่งตรงนี้อาจจะเป็นตัวตัดสินได้เช่นกัน
ขณะเดียวกันเมื่อมาวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองที่ประกาศตัวสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ อย่างพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ที่นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ โดยเฉพาะกิจกรรมเดิน “คารวะแผ่นดิน” จะพบว่าเต็มไปด้วยความยากลำบากและผลตอบรับไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งตนเชื่อว่าในพื้นที่ภาคใต้ก็ยังคงนิยมพรรคประชาธิปัตย์ มากกว่าพรรคกำนันสุเทพ
ส่วนพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ก็เป็นสัญลักษณ์ว่าเป็นพรรคของรัฐบาล เนื่องจากมีรัฐมนตรีหลายคนไปดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค แต่ถามว่าช่วงนี้เขาทำตัวเป็น “น้ำนิ่งไหลลึก” หรือไม่ ตนเชื่อว่าไม่ เพราะต้องรอพิสูจน์ตัวบุคคล หรือ อดีต ส.ส.ที่ทางพรรคดึงไปร่วมงานว่าจะเป็นดาวฤกษ์ที่แท้จริงหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ คือ หวือหวากว่าพรรค รปช.
ขณะที่งบประมาณต่างๆ ที่รัฐบาลพยายามอัดฉีดทิ้งทวนไว้ หวังปูทางเป็นคะแนนเสียงจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น นายนพพร ระบุว่า ต้องจับตาไปที่นโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ “บัตรคนจน” อาจจะถูกใจพี่น้องประชาชนรากหญ้า เพราะมันเหมือนมีเงินเดือนให้ รวมถึงความได้เปรียบอื่นๆ จากการกุมอำนาจอยู่ในมือ ก็มีผลอยู่เหมือนกัน แต่สุดท้ายแล้วตนยังเชื่อว่าเป็นงานที่ “หืดขึ้นคอ”