นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงแนวคิดในการพัฒนาประเทศ ว่า วันนี้พืชเกษตรหลายชนิดสามารถนำมาต่อยอดและพัฒนาเป็นพืชพลังงานได้ อาทิ มัน ปาล์ม อ้อย และข้าว หากเรามีทางออกในเรื่องตลาดรองรับ จะส่งผลให้พืชเกษตรดังกล่าว ไม่มีปัญหาด้านราคา เพราะเป็นไปตามหลักเศรษฐศาสตร์ หากมีดีมานต์มากกว่าซัพพลายก็ไม่มีปัญหาเรื่องสินค้าล้นตลาด
พรรคมองในเรื่องของ Bio Energy ซึ่งเป็นแนวพระราชดำริขององค์รัชกาลที่ 9 หรือที่รู้จักกันในคำว่าศาสตร์พระราชา ซึ่งเป็นแนวทางที่มีคุณค่ามากสำหรับประชาชนชาวไทย
ทั้งนี้ Bio Energy คือ พลังงานเชื้อเพลิง เผาไหม้ ที่ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ เรียกว่าเป็นพลังงานสีเขียว สามารถทดแทนพลังงานเชื้อเพลิงที่มาจากประเภทฟอสซิลได้ ล่าสุด กลุ่มบริษัท การปิโตเลี่ยมแห่งประเทศไทย หรือ ปตท. สามารถที่จะเปิดโรงงานผลิตน้ำมันจากพืชพลังงานและสามารถเปิดปั้มน้ำมันที่ผลิตจากพืชพลังงานรวมทั้งสามารถเติมน้ำมันให้กับรถยนต์ในประเทศไทยได้ทันที
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญอีกเรื่องคือกระแสไฟฟ้าคือ เพราะล่าสุด การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ.สามารถสร้างโรงไฟฟ้าเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจากน้ำมันปาล์มได้แล้วที่กระบี่ แม้ต้นทุนจะแพงกว่าถ่านหิน แต่มีข้อดีคือไม่มีปัญหาเรื่องของมลภาวะ ส่งผลดีต่อภาพของการท่องเที่ยว และตอบโจทย์ให้กับภาคเกษตรที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการระบายสินค้าการเกษตรจากเกษตรกรได้เป็นอย่างดี เพราะจะเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตกระแสไฟฟ้า
“ทั้งหมดนี้หากเรานำเอาระบบ Profit sharing เข้ามาช่วยเรื่องของราคาที่เป็นธรรมระหว่างเกษตรกรกับผู้ประกอบการก็จะสามารถแก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรได้เป็นอย่างดี และเรื่องของตลาดที่จะรองรับพืชผลทางการเกษตรสามารถที่จะรองรับได้ทั้งนี้พรรคมีการวางแนวยุทธศาสตร์ทางด้านนี้ไว้รองรับไว้แล้ว”นายศักดิ์สยามกล่าว