นิสิต ม.บูรพา ชี้ กระแสพรรคชูคนหล่อ-สวย เพราะ คสช.ไม่ยอมปลดล็อก แนะระยะยาวต้องเน้นนโยบายรูปธรรม พร้อมฝากเรื่องการศึกษา สวัสดิการ และอาชีพ ซัด! “ประชารัฐ” ไม่ตอบโจทย์ประชาชน
เมื่อวันที่ 12 พ.ย.61 มหาวิทยาลัยบูรพา จัดกิจกรรมเสวนาวิชาการเรื่อง “น้องชวนพี่คุย: อนาคตประเทศไทยที่คนรุ่นใหม่อยากเห็น” โดยมีตัวแทนพรรคการเมือง นิสิต และประชาชนทั่วไป ร่วมรับฟังจำนวนมาก
ทั้งนี้ นายจักรพล ผลละออ นิสิตคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวถึงกระแสคนรุ่นใหม่กับการเมืองว่า ปัญหาทางการเมืองไม่เกี่ยวกับอายุคน แต่เกี่ยวกับความคิดและข้อเสนอ ขณะที่การเมืองไทยนั้น แน่นอนว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่เป็นฐานเสียงสำคัญ แต่ถามว่าเสียงของคนเหล่านี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงประเทศตอนนี้ได้หรือไม่นั้น ตนเชื่อว่ายังไม่ได้ เพราะการเมืองจะเปลี่ยนก็ต่อเมื่อต้องเปลี่ยนในระดับโครงสร้างอำนาจของรัฐ นั่นหมายถึงต่อให้คนรุ่นใหม่เข้าสู่ระบบการเมืองมากขึ้น ก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เท่ากับการแก้โครงสร้างอำนาจอย่างรัฐธรรมนูญ อีกทั้ง เราต้องไปให้ไกลกว่าความฉาบฉวยที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบัน หลายๆ พรรคพยายามชูคนรุ่นใหม่ ชูคนหน้าตาดี แต่จุดที่ยังไม่ค่อยมีคนพูดถึงคือ จะมีนโยบายอะไรที่ตอบสนองต่อคนรุ่นใหม่ๆได้
“ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเราเห็นการเปิดตัวของพรรคการเมืองที่ชูภาพลักษณ์คนที่ดูดี แล้วก็มีบางคนคิดว่าผู้เลือกตั้งจะไปโหวตให้กับคนที่หน้าตาหล่อสวย ผมว่ามันไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป เพียงแต่ ณ จุดนี้ ภายใต้กรอบกฎหมายที่ คสช.ยังไม่ปลดล็อก พรรคการเมืองไม่สามารถนำเสนอนโยบายหรือหาเสียงได้เต็มที่ มันก็เลยเสนอได้แต่เรื่องฉาบฉวยแบบนี้ออกมา ทั้งนี้ หลังปลดล็อกแล้ว ถ้าพรรคการเมืองอยากได้คะแนนเสียง ต้องนำเสนอนโยบายที่เป็นรูปธรรม และตอบสนองต่อคนรุ่นใหม่ที่เป็นนิวโหวตเตอร์จริงๆ ที่ทำให้เขารู้สึกว่าเขาสามารถกำหนดอนาคตของตนเองและของประเทศได้จริงๆ” นายจักรพลกล่าว
นายคณิน ฉินเฉิดฉาย สมาชิกสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย ระบุว่า คนรุ่นใหม่ถูกคาดหวังจากสังคมมาทุกยุคสมัย แต่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองต้องเกิดจากหลายฝ่ายผสานกัน ทั้งนี้ นโยบายที่คนรุ่นใหม่ต้องการในความเห็นส่วนตน คือ ระบบโครงสร้างทางสังคมที่เอื้อต่อคนรุ่นใหม่ ซึ่งตนเห็นว่าระบบการศึกษาบ้านเรายังไม่ตอบโจทย์ อีกทั้งตนยังต้องการเรื่องรัฐสวัสดิการ และอยากให้แก้เรื่องความเหลื่อมล้ำด้วย กล่าวคือ อยากได้ระบอบประชาธิปไตยที่กินได้ ที่เน้นการตอบสนองปัญหาของประชาชน
นอกจากนี้ นายคณิน ยังกล่าวถึงนโยบายประชารัฐด้วยว่า ไม่ใช่ประชาธิไตยที่กินได้ เพราะผลประโยชน์ไม่ได้ตกอยู่กับประชาชนอย่างแท้จริง ในทางตรงกันข้ามกลับยิ่งทำให้เกิดการสะสมทุนอยู่ที่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากกว่า
ขณะที่นายศุภวิชญ์ วุฒิ นิสิตคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวถึงนโนบายที่นิสิตนักศึกษาต้องการว่า พวกตนอยากได้สิ่งที่เรียกว่าโอกาส โดยเฉพาะโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียม การแก้ปัญหาเรื่องทุนการศึกษาอย่างกรณี กยศ. รวมถึงเรื่องหลักสูตรที่ตอบสนองต่อตลาดแรงงานด้วย
นายจักรพล ผลละออ (กลาง) นายคณิน ฉินเฉิดฉาย (ขวา)
นายศุภวิชญ์ วุฒิ