นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ สมาชิกพรรคภูมิใจไทย และอดีต ส.ส.จังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยถึงแนวทางในการทำงานการเมืองว่า การทำงานการเมือง เราต้องชัดเจนในแนวทางของตนเอง ไม่ซ้ายจัด ขวาจัด เราเป็นนักการเมืองบ้านนอก เราต้องทำงานเพื่อประชาชน ไม่ว่าจะอยู่พรรคไหนตนก็จะทำงานเพื่อประชาชน พัฒนาพื้นที่ให้มีความเจริญเช่นเดียวกับที่เขามีการพัฒนาจนเป็นที่ยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นบุรีรัมย์ หรือ สุพรรณบุรี ตนยังยืนยันในการเดินทางในเส้นทางประชาธิปไตย และยอมรับในความแตกต่าง เพราะไม่มีความคิดแบบไหนผิด หรือ คิดต่างจากเราคือผิด อันนี้ไม่ใช่ เราต้องยอมรับในความแตกต่าง เพราะคนเรามีพื้นฐานที่แตกต่างกัน และในสมัยทำงานในสภา แม้เป็นรัฐบาลหากรัฐบาลทำผิด ตนก็ตำหนิรัฐบาล หรือหากฝ่ายค้านทำถูก ตนก็ชมฝ่ายค้าน ซึ่งการทำงานในฐานะนักการเมืองเราต้องยึดประชาชนเป็นหลัก เพราะไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ทุกคนที่เป็นนักการเมืองล้วนเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนด้วยกันทุกคน ตนเชื่อว่านักการเมืองทุกคนมีความคิดอยากทำงานเพื่อประชาชนด้วยกันทั้งสิ้น
นายสิริพงศ์ กล่าวต่อว่า ตนเป็นคนที่มีความชัดเจนในแนวทางการทำงาน เมื่ออยากทำงานการเมืองก็ต้องชัดเจนว่าจะทำอะไร ดังนั้น การมาทำงานกับพรรคภูมิใจไทย ก็เชื่อว่าจะมีอิสระในการทำงาน ในส่วนของนายภรากร และนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ที่ย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทยนั้น ตนก็ยินดีที่จะมาทำงานร่วมกันอีกครั้ง เพราะในสมัยทำงานที่พรรคชาติไทยพัฒนาก็ทำงานร่วมกันมาตลอด ยินดีที่มาร่วมทำงานในพรรคภูมิใจไทย
นายสิริพงศ์ ยังเปิดเผยถึงสาเหตุที่ลาออกจากพรรคชาติไทยพัฒนา และมาเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ว่า เป็นการตัดสินใจที่ยากมาก เพราะตนทำงานในพรรคชาติไทยพัฒนามานานมากกว่า 10 ปี ตั้งแต่เริ่มต้นทำงานทางการเมือง แต่เมื่อวันหนึ่งต้องเดินออกมา สาเหตุหนึ่งมาจากแนวทางของพรรคที่เปลี่ยนไปจึงจำเป็นที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในเส้นทางที่เดินอยู่ ดังนั้น ต้องออกมาเดินในเส้นทางที่เรามุ่งในการทำงานเพื่อประชาชน การตัดสินใจครั้งนี้ใช้เวลาในการตัดสินใจประมาณ 2 สัปดาห์ แต่ก็ต้องเร่งตัดสินใจเพราะเรื่องการเมืองรอไม่ได้ ส่วนที่เลือกมาเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย เพราะหนึ่งคือมีเพื่อนในพรรคภูมิใจไทยเป็นจำนวนมาก จึงไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร เพราะที่ผ่านมาก็คุ้นเคยกันมานานแล้ว และที่สำคัญนายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มีความสนิทกับทางครอบครัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว