การเลือกตั้งที่กำลังจะระเบิดขึ้นในปี 2562 คน สังคมส่วนหนึ่งยกให้เป็นการต่อสู่ระหว่างฝ่ายที่เอา – ไม่เอา “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน มองอีกนัยยะ คือเลือกโดยเอาความนิยมด้านการเมืองเป็นที่ตั้ง ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ที่ตื้นเขินไปเสียหน่อย
เพราะในความเป็นจริง ยังมีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่ต้องการเลือก เพื่อให้ “กินอิ่ม นอนหลับ”
และไม่อิงความรู้สึกนึกคิดทางการเมือง แต่หวังอยากให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ต้องยอมรับว่า 10 ปีที่ผ่านมา คือทศวรรษแห่งความ “สูญเปล่า” อย่างแท้จริง
เนื่องจากฝ่ายการเมือง แม้นจะมีความปรารถนาดีต่อประเทศ แต่ด้วยทิฐิ แห่งการแสวงหาอำนาจ นำมาซึ่งวงจรอุบาทว์ ไล่ตั้งแต่การทำลายระบบรัฐสภา การสร้างความวุ่นวาย ไปจนถึงการยึดอำนาจ ที่มิได้นำพาความอยู่ดีมีสุขแก่คนไทยแม้แต่น้อย
ที่พบพาน เห็นจะมีเพียงฝ่ายที่ชนะ และฝ่ายที่พ่ายแพ้
ฝ่ายที่มีอำนาจ กับฝ่ายที่หมดบารมี
ส่วนประชาชนมิได้นำพากับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซ้ำร้าย ฝ่ายที่ควรดูแลปากท้องประชาชน ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ ที่ปวารณาตนเป็นตัวกลางแก้ปัญหาประชาชน
ดันไปเล่นอยู่ในเกมการเมืองเสียเอง แล้วจะหาเวลาใด ไปช่วยเหลือพี่น้อง
ที่สุดแล้ว ความทุกข์ของชาวสวนปาล์ม ชาวสวนยาง ชาวสวนมะพร้าว จึงไร้ผู้เหลียวแล
ตอนนี้เราอยู่ในยุคที่มะพร้าวเหลือลูกละ 3 บาท
ปาล์มกิโลกรัมละ 2 บาทเศษ
และน้ำยางกิโลกรัมละ 14 บาทเท่านั้น
ขณะที่ฝ่ายผู้มีอำนาจทั้งหลาย ทั้งอดีต ส.ส. ทั้งอดีตรัฐมนตรี ทั้งคนที่มีพาวเวอร์ในปัจจุบัน กำลังง่วนกับการขับเคลื่อนพรรค บดบี้ฝ่ายตรงข้าม เช่นนี้แล้วถูกต้องหรือไม่
กลับมามองที่พื้นที่ซึ่งกระแสความขัดแย้งทางการเมืองไปไม่ถึง เราจะเห็นสภาพชีวิตที่ดีกว่า อาทิ สุพรรณบุรี ชลบุรี บุรีรัมย์ เป็นต้น
จังหวัดหนึ่ง มีสิ่งอำนวยความสะดวกกระจายอยู่ทุกพื้นที่ ประชาชนอยู่ดีกินดี ดัชนีความยากจนอยู่ในลำดับท้ายของประเทศ จังหวัดหนึ่งเป็นแหล่งอุตสาหกรรม มีตลาดงานรองรับหลายแสนตำแหน่ง เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ขณะที่จังหวัดหนึ่งก้าวมาเป็นเมืองท่องเที่ยว ละดับประเทศ เป็นจุดหมายปลายทางของคนกีฬาจากทั่วโลก
แล้วจังหวัดที่ถูกยึดครองโดยกลุ่มสีต่างๆ เล่า !?! ยังคงหาเหลี่ยมคูเอาชนะทางการเมืองมิเสื่อมความพยายาม
ทั้งนี้ ความเจริญของสุพรรณบุรี ชลบุรี บุรีรัมย์ เกิดขึ้นได้ เพราะนักการเมือง เล่นบทตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง เป็นตัวกลางนำพาประโยชน์ลงสู่พื้นที่ โดยมิมีข้อแม้
ชัยชนะของนักการเมืองกลุ่มนี้ หาใช่การชนะฝ่ายตรงข้าม แต่เป้าหมายสุดท้ายคือ
“ชนะใจประชาชน”
Ringsideการเมือง