รศ.สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวถึงการเลื่อนวันเลือกตั้งว่า มีผลกระทบในแง่ความรู้สึกของประชาชนที่ปักใจแล้วว่าจะได้เลือกตั้งวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และอาจถูกมองได้ว่าการเลื่อนครั้งนี้หวังประโยชน์ทางการเมืองหรือไม่ เพราะได้ยินข่าวเช่นกันว่าพรรคที่สนับสนุนรัฐบาลอยากมีเวลาเพิ่มเพื่อให้โครงการรัฐเกิดดอกเกิดผลเสียก่อน หวังทำให้คนรักและศรัทธารัฐบาลเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ตนกลับมองว่าฝ่ายที่เสียคือฝ่ายรัฐบาลเองที่จะเสียเครดิตความน่าเชื่อถือ แถมถูกกล่าวหาว่าเอาเปรียบ แม้จะโยนไปเป็นเรื่องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ตาม แต่คนเขาเชื่อว่าเป็นฝีมือรัฐบาล
ส่วนพรรคการเมืองอื่นๆ อาจได้อานิสงส์ตรงที่มีเวลาเพิ่มขึ้นในการนำเสนอนโยบาย ส่วนบางพรรคที่ปัญหาภายในเพิ่งจบลงเพราะใกล้เลือกตั้ง แต่เมื่อขยับเวลาออกไปปัญหาอาจปะทุขึ้นมาอีกก็ได้ ทั้งนี้ สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล แม้ลึกๆอาจได้ประโยชน์จากการเลื่อนเลือกตั้ง แต่ก็ต้องบอกว่าไม่เห็นด้วย เพื่อปลุกอารมณ์มวลชนว่าฝ่ายรัฐบาลเอารัดเอาเปรียบ ซึ่งสามารถแปรเปลี่ยนมาเป็นคะแนนเสียงได้
รศ.สุขุม ยังกล่าวถึง ร่างระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.2561 ว่าบางอย่างมีลักษณะหยุมหยิมเกินไป เช่น ผู้สมัคร ส.ส.เขตมีผู้ช่วยได้ไม่เกิน 20 คน ตรงนี้ตนไม่เห็นด้วย ควรไปจำกัดเฉพาะเรื่องงบประมาณดีกว่า ส่วนเรื่องจำนวนคนให้ขึ้นอยู่กับเขตนั้นๆเป็นผู้จัดการ เพราะขนาดสมัยที่ตนหาเสียงอธิการบดี ม.รามคำแหง ในพื้นที่ไม่กี่สิบไร่ยังมีผู้ช่วยเกือบร้อยคน เช่นเดียวกับการห้ามนักแสดงนักดนตรีมาช่วยหาเสียง หรือห้ามตัวผู้สมัครที่มีความสามารถแต่ไม่ให้ใช้อุปกรณ์แสดง ตรงนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากต่อการตีความ และจะเกิดความวุ่นวาย ฟ้องร้องกันเต็มไปหมด จนอาจส่งผลต่อการประกาศผลการเลือกตั้งล่าช้าก็เป็นได้