ศาสตราจารย์ ดร.สมภาร พรมทา อดีตอาจารย์ภาควิชาปรัชญา คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก “สมภาร พรมทา” โดยเล่าถึงประสบการณ์ส่วนตัวของครอบครัว ซึ่งล่าสุดได้สร้างบ้านขนาดเล็ก ราคาถูก อีกหลัง ภายในบริเวณเดียวกัน เพื่อให้บุตรสาวใช้พักผ่อนในบรรยากาศธรรมชาติ พร้อมเสนอทางออกในการแก้ปัญหามลพิษระยะยาว ระบุว่า
ลูกสาวบอกว่ามาอยู่บ้านใหม่แล้วอาการแสบตาแสบจมูกดีขึ้นมาก กลางวันเปิดหน้าต่างบ้านทำงานไม่ต้องใช้พัดลมเพราะอากาศเย็น ประสบการณ์สร้างบ้านราคาถูกคราวนี้ทำให้ผมนึกเห็นไปว่า หากเราจะโดยรัฐบาลหรือใครก็ตามแต่สามารถจัดการให้ช่างกับชาวบ้านที่ต้องการบ้านได้พบกันและตกลงราคาสร้างบ้านกันเอง ไม่ผ่านบริษัทคนกลางที่เอาเข้าจริงเวลาสร้างก็ไปจ้างช่างชาวบ้านพวกนี้แหละด้วยการกดราคาเพื่อเอากำไร คนที่มีรายได้ไม่มากก็คงสร้างบ้านได้ เป็นบ้านจริงๆ ที่มีสุนทรียภาพและแข็งแรง บ้านชนบทยุโรปนั้นคือสิ่งที่ผมฝันอยากเห็นทั่วเมืองไทย
การได้ตื่นเช้ามาสูดอากาศได้เต็มที่ควรเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต จากการอ่านหนังสือเกี่ยวกับ air pollution และประสบการณ์แก้ปัญหาของยุโรปทำให้คิดไปว่าปัญหาอากาศเสียมาจากเราทุกคนรวมทั้งผมด้วย เราไม่จงใจ และวิถีชีวิตนั่นเองที่บังคับให้เราต้องออกจากบ้านขับรถไปทำงาน หากลดการออกจากบ้านได้ จำนวนการปล่อยของเสียใส่อากาศก็จะลดลง ส่วนตัวผมไม่เข้ากรุงเทพมาสองปีกว่าแล้ว เวลามีงานสำคัญทางวิชาการ ผมจะปรึกษาผู้เกี่ยวข้องว่าผมเขียนแล้วส่งมาให้ทางอินเตอร์เน็ตได้ไหม เก้าในสิบของงานทำได้ แปลว่าหากมีกฎหมายห้ามรถอายุเกินเจ็ดปีเข้ากรุงผมก็อยู่ได้เพราะลองแล้ว แต่มาตรการทางกฎหมายก็ต้องระวังให้คนมีทางออกให้มากที่สุด กระนั้นก็จะมีบางคนที่หาทางออกไม่ได้ เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ก็เลี่ยงไม่ได้ครับที่รัฐต้องใจแข็ง
“มหาวิทยาลัยและโรงเรียนคือต้นตอหนึ่งที่ทำให้คนออกมาจากบ้านพร้อมกันเป็นจำนวนมาก เราต้องคิดระบบในระยะยาวได้แล้วครับ มหาวิทยาลัยต้องอนุญาตให้อาจารย์บางท่านสอนผ่านเน็ตได้ นี่คือตัวอย่างการคิดแก้ปัญหา อังกฤษรณรงค์ว่าหากไม่จำเป็นต้องซื้อของอย่าไปห้าง นี่ก็ตัวอย่างการสร้างวัฒนธรรมลดการเดินทางที่ไม่จำเป็น ช่วยกันคิดหน่อยนะครับ” ดร.สมภาร ระบุ