หน้าแรก news ประมวลความเคลื่อนไหว หลัง “ไทยรักษาชาติ” ยื่นนาม “ทูลกระหม่อมฯ” เป็นแคนดิเดทนายกฯ ด้านนักวิชาการ เชื่อ บ้านเมืองเข้าสู่ยุคปรองดอง

ประมวลความเคลื่อนไหว หลัง “ไทยรักษาชาติ” ยื่นนาม “ทูลกระหม่อมฯ” เป็นแคนดิเดทนายกฯ ด้านนักวิชาการ เชื่อ บ้านเมืองเข้าสู่ยุคปรองดอง

0
ประมวลความเคลื่อนไหว หลัง “ไทยรักษาชาติ” ยื่นนาม “ทูลกระหม่อมฯ” เป็นแคนดิเดทนายกฯ ด้านนักวิชาการ เชื่อ บ้านเมืองเข้าสู่ยุคปรองดอง
Sharing

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการบริหารพรรค แกนนำและสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เดินทางมายื่นเอกสารรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ทษช.

โดยบรรดาแกนนำทยอยเดินทางมารอตั้งแต่เวลา 08.30 น. จากนั้นบรรยากาศเริ่มเกิดความชุลมุนวุ่นวายขึ้นเมื่อ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคเดินทางมาถึงพร้อมซองเอกสาร บรรดาสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างชาติต่างกว่า 100 ชีวิต ต่างกรูกันเข้าไปรุมล้อมถ่ายภาพและขอสัมภาษณ์

โดย ร.ท.ปรีชาพลพร้อมคณะเข้าไปยื่นเอกสารเสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที

ผู้สื่อข่าวรายว่า พรรคไทยรักษาชาติ ได้ยื่นบัญชีรายชื่อต่อ กกต. โดยมีการเปิดภาพเป็นภาพทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี โดยได้ยื่นให้สื่อมวลชนได้ถ่ายภาพ ซึ่งเป็นภาพของทูลกระหม่อมหญิงฯ อุบลรัตน์ อยู่บนใบเสนอรายชื่อแคนดิเดต นายกรัฐมนตรี ของพรรค

อีกด้านหนึ่ง จากกรณี นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า ในสถานการณ์ให้ประเทศเดินไปข้างหน้าสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่นี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการแสดงเจตนารมณ์ของผมที่อยากเห็นการบริหารชาติบ้านเมือง โดยเฉพาะการขับเคลื่อนนโยบายในทุกๆ ด้าน

ให้มีความต่อเนื่อง ราบรื่น สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติที่วางไว้ ดังนั้นผมขอใช้โอกาสนี้ประกาศสนับสนุนให้เสนอท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นตัวแทนของพรรคเพียงรายชื่อเดียวในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

ล่าสุด วันที่ 8 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ปล่อยแถลงการณ์ ตอบรับคำเชิญ “พรรคพลังประชารัฐ” เป็นแคนดิเคตนายกฯ แล้วเช่นกัน

ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธทุกคำถามจากสื่อมวลชน ภายหลังจากพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) เสนอชื่อ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ เป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีรายชื่อของพรรค

เมื่อถามถึงความเหมาะสมและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง นายวิษณุ กล่าวว่า “ขอไม่ตอบ และไม่มีความเห็น หากผมตอบได้ ผมตอบไปแล้ว แต่นี่ผมตอบไม่ได้”

ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูปได้เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้พิจารณาและวินิจฉัยการกระทำของพรรคไทยรักษาชาติว่าเข้าข่ายขัดต่อระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ. ศ. 2561 หมวด 4 ลักษณะในการต้องห้ามการหาเสียงเลือกตั้งข้อ 17

นายไพบูลย์ เปิดเผยว่า หลังจากได้ทราบข่าวจากสื่อมวลชน ว่าพรรคไทยรักษาชาติ มีมติเสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี ของพรรคไทยรักษาชาติ จึงมีความเห็นว่าแม้นทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ จะทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์แล้ว แต่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ ทรงเป็นเจ้าฟ้าชั้นทูลกระหม่อม ทรงเป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ของในหลวงรัชกาลที่ 9 และทรงเป็นพระเชษฐภคินีพระองค์เดียวของในหลวงรัชกาลที่ 10 ดังนั้นทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ จึงเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามประเพณีการปกครองประเทศไทย ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อย่างที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 5 บัญญัติไว้

ดังนั้นการที่พรรคไทยรักษาชาติได้ยื่นเสนอพระนามของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ในบัญชีนายกรัฐมนตรี ย่อมต้องมีการนำพระนามของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ ไปใช้ประโยชน์ในการหาเสียงเลือกตั้งของพรรคไทยรักษาชาติอันเป็นการเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งข้อที่ 17 คือ “ห้ามผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใด นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง”

นายไพบูลย์จึงมีความประสงค์ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาและวินิจฉัยการกระทำของพรรคไทยรักษาชาติว่าเข้าข่ายขัดต่อระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือไม่หากมีปัญหาข้อขัดข้องจึงอยากให้คณะกรรมการการเลือกตั้งสั่งให้พรรคไทยรักษาชาติระงับการเสนอพระนามทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักษาชาติ

ในมุมมองของนักวิชาการ รศ.ดร.ธีรวิทย์ ภิญโญณัฐกานต์ นักวิชาการอิสระ จ.นครราชสีมา ได้ออกมาวิเคราะห์สถานการณ์เลือกตั้งปี 2562 ว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะจะเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมืองของประเทศไทยที่สำคัญมากๆหลังจากนี้น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ประเทศชาติมีความสงบร่มเย็นลง ทั้งการร้อนแรงทางทางการเมือง การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น และการหักเหลี่ยมโค่นล่มฝ่ายตรงข้าม เป็นต้น น่าจะลดน้อยลงไป จะทำให้เกิดสันติภาพ ความสงบสุข ความสามัคคีกลมเกลียวกันในประเทศมากกว่าเดิม จึงน่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดีของประเทศแน่นอน

ขอบคุณ :

ข่าวสด

มติชน

ผู้จัดการ


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่