นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรค, นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรค นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรค, นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรค และผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย ปราศรัยบริเวณตลาดสามโคก ท่ามกลางประชาชนที่มารอฟังตั้งแต่ช่วงเย็นประมาณ 4 พันคน อัดแน่นลานกว้างด้านหลังตลาด บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
นายอนุทิน กล่าวว่า ปทุมธานีเป็นจังหวัดอู่ข้าวอู้น้ำ ใกล้ กรุงเทพ คนปทุมธานีปลูกข้าวกันมาก ที่เราอยากเสนอคือนโยบายแบ่งปันกำไร ที่เมื่อได้ปฏิบัติ ชาวนา จะลืมตาอ้าปากแน่นอน
เรามาศึกษาโครงสร้างตลาดข้าว ในโครงสร้างมีชาวนา มีโรงสี มีพ่อค้า แต่ชาวนาทำงานหนักสุด น่าเสียดายที่ชาวนาได้กำไรน้อยที่สุด ส่วนพ่อค้าได้กำไรมากที่สุด ทั้งที่ชาวนาทำงานหนักและลงทุนมากที่สุด มันเป็นวงจรอุบาทว์ และถ้าชาวนาอยู่ไม่ได้ ย่อมทำให้เกิดความเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า พรรคภูมิใจไทย ไม่เก่ง แต่เรากล้าคืนความเป็นธรรมกับพี่น้องเกษตรกร
สำหรับพี่น้องชาวนา จะได้ส่วนแบ่งกำไรจากการส่งออกข้าว และข้าวถุงมากที่สุด ตามสูตร 75-15-10
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ในเรื่องการศึกษา คนไทยต้องการเรียนสูง มีความรู้ติดตัว แต่ด้วยสถานะทางบ้าน นักเรียนอาจมีข้อจำกัด นำมาซึ่งการกู้ยืม กยศ. ที่มีทั้งดอกเบี้ย เบี้ยปรับ มีผู้ค้ำ ระยะพักหนี้แค่ 2 ปี มันไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง พรรคภูมิใจไทย จะแก้ไข เป็นพักหนี้ 5 ปี ไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีเบี้ยปรับ ไม่มีผู้ค้ำ ให้การศึกษามีความเท่าเทียมนอกจากนั้น เราจะให้เรียนฟรีผ่านระบบออนไลน์
นอกจากนี้ ในการทำธุรกรรมกับทางราชการ ต้องไม่มีเรื่องดุลย์พินิจ การตั้งโรงงาน จะสะดวกขึ้น น่าจะเหมาะสมกับจังหวัดปทุมธานีที่มีโรงงานมากมาย ขณะที่การเลือกคนมาดูแลพื้นที่ เราสนับสนุนให้คนพื้นที่ ดูแลบ้านเกิด ฟากเราได้เป็นรัฐบาล เราอาจจะมีรัฐมนตรีเป็นคนปทุมธานี ตรงนี้ ผมจะต้องตอบแทนคนปทุมธานี
ทั้งนี้ ขอให้ไว้ใจเลือกพรรคภูมิใจไทย เรามีความตั้งใจมาช่วยพี่น้องประชาชน เรสไม่ขัดแย้งกับใคร เราคิดแต่เรื่องการแก้ปัญหาปากท้อง
ด้านนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตนเป็นคนอุทัยธานี คนอุทัยธานีปลูกข้าวเสียครึ่งหนึ่ง และทั้งหมด ประสบปัญหาเรื่องราคาข้าว ประเด็นคือ ข้าวออกทุกปี คนกินข้าวทุกวัน แล้วทำไมราคาข้าวยังตก
ในอดีต นโยบายข้าว เป็นนโยบายพรรค เปลี่ยนรัฐบาล ชาวนาก็ต้องลุ้นว่าราคาจะเป็นอย่างไร เราเลยคิดว่า มันต้องหาทางช่วยชาวนาอย่างยั่งยืน ให้ออกเป็นกฎหมายไปเลยเพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ชาวนาและเกษตรกร
รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวต่อว่า หลายคนที่นั่งอยู่ที่ตลาดสามโคก ได้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ล่าสุด เขาให้ไป 19 ล้านคน แล้วเศรษฐกิจดีไหมครับ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะชาวนา ชาวไร่ ยังลำบาก พืชผล ทางการเกษตรมันตกจ่ำหมด ชาวนา ชาวไร้ เหมือนเส้นเลือดแดง เลือดไม่สูบฉีด ประเทศจะอยู่ได้อย่างไร นโยบายของภท ทำเอาหลายคนเต้น มีคนบางกลุ่มล็อบบี้ไม่ให้เราทำสำเร็จ
ส่วนเรื่องกัญชาเสรี วันนี้ กฎหมายยอมให้ใช้กัญชาเป็นยาแล้ว แต่ตามกฎหมายล่าสุด การปลูกกัญชาได้ ต้องมีเงิน 30 ล้านไป ซื้อใบอนุญาต
แต่ของภูมิใจไทย เราไม่ต้องใช้เงินมากมาย เราจะให้คนไทยปลูกได้ บ้านละ 6 ต้น สร้างความเท่าเทียมในการปลูกกัญชา
กฎหมายของรัฐบาลนี้ แทบไม่มีประโยชน์อะไรกับคนไทยเลย เพราะท่านมี 30 ล้านหรือ แต่ของภูมิใจไทย เราให้ประชาชนปลูก แล้วองค์การยาสูบจะรับซื้อ
“กลับมาที่ข้าว ภูมิใจไทยคุยเรื่องยกระดับราคาข้าว ช่วยเกษตรกร แต่ สนช. ดันจะออกกฎหมายควบคุมชาวนา ถ้าไม่ใช่ช่วงเลือกตั้ง ผมจะเดินไปถาม ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
ทั้งนี้ ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย จ.ปทุมธานี ประกอบไปด้วย เขต 1. นายชัยวัฒน์ อินทร์เลิศ เขต 2. นายพิเชษฐ หาญจางสิทธิ์ เขต 3. นายนพนันทร์ หนูเจริญ (ตี๋ เมืองเอก) เขต 4.นางสาวรุ่งฤดี อำภิน เขต 5.นายสายเทพ จันบางพลี เขต.6 นายพิษณุ พลธี