หน้าแรก news คสช.ปัดเร่งรัดคดี “ธนาธร” ชี้ ไลฟ์ อนค.กระทบภาพลักษณ์ประเทศ

คสช.ปัดเร่งรัดคดี “ธนาธร” ชี้ ไลฟ์ อนค.กระทบภาพลักษณ์ประเทศ

0
คสช.ปัดเร่งรัดคดี “ธนาธร” ชี้ ไลฟ์ อนค.กระทบภาพลักษณ์ประเทศ
Sharing

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. ชี้แจงกรณีคดีความ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หน.พรรคอนาคตใหม่ และพวก ถูก บก.ปอท. กล่าวหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2) กรณีไลฟ์สด วิจารณ์พลังดูดเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 61 ที่ผ่านมา ซึ่งนายธนาธร ได้มองว่าเป็นการเร่งรัดและเลือกปฏิบัตินั้น ว่า

เป็นหน้าที่ของทางตำรวจ ยืนยัน คสช.ไม่ได้มีการเร่งรัด และไม่มีเลือกปฏิบัติ ทุกอย่างเป็นไปตามหลักการขั้นตอนปกติทั่วไป พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ก็เป็นกฎหมายปกติ ไม่ใช่กฎหมายที่มีที่มาต้นทางจาก คสช. แล้วนำมาบังคับใช้กับบุคคลในลักษณะเฉพาะเจาะจงใดๆ

ทั้งนี้อาจมีบางบุคคลพยายามบิดเบือน ข้อเท็จจริงโดยให้ข้อมูลออกไปในทำนองว่า เป็นมาตรการของ คสช. กระทำกับบางกลุ่มบางบุคคลอย่างไม่เป็นธรรม

โดยทั่วไปในทุกๆคดีที่ศาลยังไม่ตัดสิน ย่อมถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์ และเปิดกว้างให้ตัวผู้ถูกกล่าวหาทุกคนสามารถไปแก้ต่างได้ตามช่องทางและกระบวนการ ซึ่งถือเป็นหลักการตามแนวทางสากล

 

ส่วนพฤติกรรมทางคดีของนายธนาธร ฯ นั้น เหตุเกิดขึ้นตั้งแต่ 26 มิ.ย.61 โดย นายธนาธร และผู้ร่วมรายการทั้ง 3 คน ได้ร่วมกันกล่าวบิดเบือนว่า ” มีการดูด สส.เข้าไปพรรคใหม่ ที่มีชื่อคล้ายคลึงกับนโยบายรัฐ มีการใช้คดีเก่าๆ ของกลุ่ม สส.ต่างๆ ที่เข้าร่วม โดยขู่ว่าถ้าไม่เข้าร่วม จะดำเนินคดีต่างๆที่ดำรงอยู่

ซึ่งเนื้อหาดังกล่าว เหมือนการกล่าวหาว่ามีการนำกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง

รวมถึงที่กล่าวว่า ความยุติธรรมเกิดขึ้นเฉพาะกับคนรวย แต่กับคนจนไม่มีความยุติธรรมเหลืออยู่ในสังคม แสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนว่า อำนาจอยู่เหนือกระบวนการยุติธรรม หากกระบวนการยุติธรรมไทย ตัดสินอะไรต่างๆในรอบหลายปีที่ผ่านมาด้วยความยึดมั่นในความยุติธรรม ประเทศไทยคงไม่ต้องเดินมาถึงจุดนี้”

ส่วนนี้ก็เหมือนเป็นการหมิ่นในกระบวนการตัดสินของประเทศไทยด้วย เช่นกัน

ซึ่งข้อมูลลักษณะดังกล่าวที่นายธนาธร และ พวก ได้ฟันธงออกอากาศผ่านรายการไปนั้นอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ในทางสาธารณะของบางบุคคล บางองค์กร รวมถึงภาพลักษณ์ของประเทศไทยในหลายมิติด้วยกัน โดยเฉพาะด้วยตัวตนของนายธนาธร ขณะนี้อยู่ในสถานะผู้มีบทบาทอยู่ในสังคม

ซึ่งคดีนี้ได้เริ่มต้นดำเนินการมาก่อนมีการประกาศวันเลือกตั้ง แต่ความคืบหน้านั้นอาจเป็นที่ความร่วมมือของผู้ถูกกล่าวหาเองด้วย

ส่วนที่มีการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อในทำนองกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท.ว่ามีความพยายามที่จะเร่งรัดปิดคดีนั้นเป็นการกลั่นแกล้งกันทางการเมืองนั้น ก็ไม่อยากให้ไปกล่าวหาในลักษณะดูหมิ่นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าทื่ เพราะเชื่อว่าที่ จนท.มีความจำเป็นต้องปฏิบัติให้ทุกอย่างเป็นไปตามหลักขั้นตอนวิธีการ และตามบทบาทหน้าที่ในกรอบกฎหมายของการเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่