เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย พร้อม ดร.นาที รัชกิจประการ เหรัญญิกพรรค และผู้สมัคร จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเวทีปราศรัยบริเวณลานกว้าง โรงแรมวังใต้ มีประชาชนร่วมฟังกว่า 5 พันคน ถือเป็นอีกหนึ่งเวทีปราศรัยของภูมิใจไทยที่บรรยากาศคึกคักเป็นอย่างยิ่ง
นายศุภชัย กล่าวว่า พี่น้องประชาชนที่มารอในวันนี้ ล้วนปรารถนาการเลือกตั้ง เพราะต่างเข้าใจดีว่า ประชาธิปไตย คือหนทางเดียวในการพาชาติไปข้างหน้า แต่สิ่งที่อยากให้พี่น้องทบทวนคือตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เราวนเวียนอยู่กับปัญหาเดิม ย้อนกลับไปปี 2544 ได้นายกฯ ชื่อทักษิณ ชินวัตร แต่อยู่ไม่ได้ มีการชุมนุม ยึดอำนาจ ต่อมาเลือกตั้ง มีการชุมนุม ยุบพรรค แล้วก็เลือกตั้ง ได้นายกฯ ชื่อยิ่งลักษณ์ ตามมาด้วยการชุมนุมที่เขาอ้างว่าต่อต้านการนิรโทษกรรม ความวุ่นวายไปถึงขั้นที่พรรคประชาธิปัตย์ขว้างปาของใส่ประธานสภา ตามมาด้วยการไม่ยอมให้เลือกตั้ง และยึดอำนาจในที่สุด เหตุการณ์นั้น พี่น้องเข้าร่วมด้วย เพราะต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น กระทั่งเราได้พลเอกประยุทธ์มาบริหารประเทศ ชีวิตของท่านดีหรือไม่
ที่ตนอยากจะสื่อสารคือ ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น เพราะความไม่ลดราวาศอกของ 2 พรรคใหญ่ มันถึงเวลาที่เราต้องบอกให้เขาเจียมตัว ให้คะแนนของพวกเขาลดลงบ้าง ให้เขารู้ว่าประชาชนพอแล้วกับการเมืองเดิม
“พรรคที่พี่น้องรักใคร่ เขาบอกว่า ที่ภาคใต้ไม่เจริญ เพราะพี่น้องชินวัตร สมัยเป็นนายกฯ ไม่ยอมกระจายงบลงใต้ ทั้งที่พรรคที่พี่น้องรักได้ ส.ส. ใต้มา 30 ปีแล้ว เป็นนายกรัฐมนตรีมา 3 สมัย แล้วท่านได้อะไรกลับคืนมาบ้าง เมื่อเทียบกับสุพรรณบุรี และบุรีรัมย์ที่แซงสุราษฎ์ไปแล้ว มันยิ่งน่าน้อยใจ เพราะนายบรรหาร เป็นนายกรัฐมนตรีแค่สมัยเดียว ขณะที่นายเนวิน ไม่เคยเป็นนายกฯด้วยซ้ำ ทำไมพวกเขาพัฒนาบ้านเมืองได้ แต่เรายังอยู่กับที่ ถ้าท่านชอบบุรีรัมย์ และอยากให้สุราษฎร์ธานี พัฒนาเช่นเดียวกัน ต้องเลือกพรรคที่ทำจริง ทำเป็น”
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่เคยหยุดนิ่ง ในช่วงรัฐบาลกองทัพ เราคิดหาทางช่วยประชาชนอยู่ตลอด คำตอบคือ คนไทยมีปัญหาปากท้อง และเราต้องเร่งแก้ไข แนวทางของเราคือ ใช้กฎหมายมาแบ่งปันกำไรภาคเกษตร
ในส่วนของยาง เราประกันราคาที่กิโลกรัมละ 70 บาท วิธีการคือ ชาวสวนยางต้องได้แบ่งปันกำไรจากผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยาง และหลักคิดนี้ จะดันราคาปาล์มให้สูงแตะ 5 บาทต่อกิโลกรัมเช่นกัน นอกจากนั้น ในส่วนของปาล์ม เราจะเพิ่มความต้องการของตลาดด้วยการนำไปผลิตเป็นพลังงาน สิ่งที่เราพูดเราทำแน่นอน เพราะเราไม่มีผลประโยชน์กับนายทุนยาง นายทุนปาล์ม ไม่มีอะไรที่เราต้องกังวล
เรายังจะช่วยเหลือผู้กู้ กยศ.เพื่อสร้างความเท่าเทียมด้านการศึกษาไทย ด้วยการให้พักหนี้ 5 ปี, ไม่มีเบี้ยปรับ, ไม่มีดอกเบี้ย, ไม่มีผู้ค้ำประกัน
“ที่สำคัญ มันถึงเวลาที่คนไทยต้องมีรายได้เพิ่มจากกัญชา พืชเศรษฐกิจระดับโลก ซึ่งหลังจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า สาร THC ในกัญชา ไม่ใช่สารเสพติด และกัญชามีสรรพคุณในการบำบัดรักษามะเร็ง พาร์กินสัน และโรคร้ายต่างๆ ยิ่งทำให้กัญชาเป็นที่ต้องการของตลาด คนไทยต้องมีรายได้จากความต้องการดังกล่าว
รัฐบาลชุดปัจจุบัน ยอมให้ปลูกได้แล้วภายใต้ใบอนุญาตราคาสูงถึง 30 ล้านบาท แต่เราจะให้ทุกบ้านปลูกได้ บ้านละ 6 ต้น มีต้นแบบมาจากแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ทั้งนี้ ตามราคาปัจจุบัน กัญชา 1 กิโลกรัมมีราคา 70,000 บาท หากหนึ่งบ้านมีกัญชา 6 ต้น จะมีรายได้ต่อปีกว่า 400,000 บาท หากภูมิใจไทยได้เป็นรัฐบาล เราจะผลักดันเรื่องนี้ให้เป็นจริง พี่น้องชอบหรือไม่”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากจบคำถาม มีเสียงประชาชนโห่ร้อง และปรบมือดังกระหึ่ม พร้อมตะโกนว่าชอบ
นายศุภชัยกล่าวทิ้งท้ายว่า ถ้าท่านชอบนายอภิสิทธิ์ ท่านก็เลือกประชาธิปัตย์ ถ้าท่านชอบพลเอกประยุทธ์ ท่านก็เลือกพลังประชารัฐ แต่ถ้าท่านอยากได้คนใหม่ ที่สดกว่า มีประสบการณ์บริหาร และประสบความสำเร็จ ให้เลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ถึงเวลาที่ท่านต้องใจแข็ง อย่าเลือกเพราะสงสารเขา แต่ให้เลือกเพราะสงสารตัวเอง
ด้าน ดร.นาที กล่าวว่า สุราษฎร์ธานี เป็นต้นกำเนิดของอาณาจักรศรีวิชัย เป็นเมืองที่เจริญมาแต่อดีต นอกจากนั้น ยังมีวัฒนธรรมเก่าแก่ แหล่งท่องเที่ยวสวยงาม และผู้คนจิตใจดี แต่กลับมีปัญหาปากท้องต้องแก้ไข เราขออาสามาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของท่านด้วยคนชื่อ “มนตรี เพชรขุ้ม” อดีตนายกฯ อบจ. ที่ท่านรักและศรัทธา ที่วันนี้เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค หากเลือกผู้แทนของพรรคทั้ง 6 เขต รับรองว่าท่านได้คนชื่อมนตรีไปดูแลท่านแน่นอน
ทั้งนี้ สำหรับผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย จ.สุราษฎร์ธานีประกอบไปด้วย เขต 1 นายสมบูรณ์ ทองพัฒน์ เขต 2 น.อ.สุนทร รังสิวรารักษ์ เขต 3 นายสมพล ขุนทอง เขต 4 นายสมชาย ไชยยศ เขต 5 นายบรรจง จันทร์ช่วง และเขต 6 นายเชวง ช่วยบำรุง